“หมอธีระวัฒน์” เผยเหตุที่ต้องฆ่าเชื้อ “โควิด-19” ด้วยวิธีทำความสะอาดพื้นผิว-ล้างมือบ่อย

แฟ้มภาพ

เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สภากาชาดไทย กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายมีข้อสงสัยว่า เชื้อไวรัสโคโรนาสามารถมีชีวิตอยู่บนพื้นผิวได้นานเท่าใด และจะมีวิธีกำจัดได้หรือไม่ ว่า จากรายงานในวารสารการติดเชื้อในโรงพยาบาล เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2563 ยังคงให้คำตอบเช่นเดียวกับที่มีรายงานมาก่อนหน้านี้ในวารสาร appl Environ Microbiol ปี 2553 ทั้งนี้ โดยการศึกษารูปแบบของไวรัสซาร์ส ไวรัสเมอร์ส และไวรัสโคโรนาตัวอื่นๆ รวมทั้งไวรัสตัวแทนที่มีลักษณะคล้ายกัน ได้แก่ TGEV MHV ผลที่ได้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของทั้งอุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์ โดยที่ไวรัสเหล่านี้สามารถมีชีวิตอยู่ได้บนพื้นผิวโลหะ แก้ว หรือพลาสติก ได้นานถึง 9 วัน ที่อุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียส TGEV MHV ไวรัสสามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างน้อย 28 วัน ที่อุณหภูมิสูงขึ้น ถ้าอุณหภูมิ 30 องศาฯ ขึ้นไป จะมีชีวิตอยู่ได้น้อยลง

ส่วนความชื้นมีส่วนทำให้ไวรัสอยู่ได้นานขึ้นหรือไม่ ทั้งนี้ ความชื้นที่ร้อยละ 50 ไวรัส เช่น HCoV 229E จะมีชีวิตอยู่ได้ดีกว่าที่ความชื้นร้อยละ 30 สามารถฆ่าได้ด้วยแอลกอฮอล์ ร้อยละ 62-71 ด้วยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ร้อยละ 0.5 หรือโซเดียมไฮโปคลอไรท์ ร้อยละ 0.1 ภายใน 1 นาที สารฆ่าเชื้อตัวอื่น เช่น เบนซาลโคเนียมคลอไรด์ ร้อยละ 0.05-0.2 และ ร้อยละ 0.02 คลอเฮกซิดีน ไดกลูโคเนท ร้อยละ 0.02 ได้ผลไม่ดี” ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวและว่า ในส่วนของการเอามือไปสัมผัสพื้นผิว แม้ว่าจะไม่มีการศึกษาโดยตรงกับไวรัสโคโรนาก็ตาม แต่ถ้าใช้การศึกษาไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ จะพบว่าเพียงแค่เอามือไปสัมผัสพื้นผิวที่มีเชื้อไวรัสอยู่เพียง 5 วินาที จะสามารถมีตัวไวรัสติดขึ้นมาที่มือได้ร้อยละ 31.6 แต่ไวรัสพาราอินฟลูเอนซา 3 วินาที การส่งผ่านมาที่มือจะต่ำกว่าเหลือเพียงร้อยละ 1.5 ที่การสัมผัส 5 วินาที

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวว่า นอกจากนั้น การศึกษายังพบว่านักเรียนมีแนวโน้มที่จะสัมผัสหน้าตนเองด้วยมือตนเองโดยเฉลี่ย 23 ครั้งต่อชั่วโมง โดยสัมผัสที่ผิวหน้าร้อยละ 56 ตามด้วยเอามือไปสัมผัสที่ปาก ร้อยละ 36 จมูก ร้อยละ 31 และ ตา ร้อยละ 31 และจึงเป็นเหตุผลที่สำคัญที่ต้องทำความสะอาดพื้นผิว ต้องล้างมือบ่อยๆ ป้องกันไม่ให้เชื้อเข้าสู่ร่างกายผ่านทางเยื่อบุตาจมูกและปาก ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับเชื้ออาการจะรุนแรงมากน้อยอย่างไร ขึ้นอยู่กับไวรัสที่เข้าสู่ร่างกาย และอยู่ที่ว่าร่างกายคนนั้นแข็งแรงเพียงใด

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image