เมืองกรุงฝุ่นพิษลด ขณะที่ภาคเหนือยังอ่วม หนักสุดที่ ต.จองคำ เมืองแม่ฮ่องสอน -แม่แจ่ม 170 มคก./ลบ.ม.
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 26 กุมภาพันธ์ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยคพ.ร่วมกับกทม.ตรวจวัดค่าฝุ่นรวม 62 สถานี พบค่าฝุ่นระหว่าง 29 – 57 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร(มคก./ลบ.ม.) ค่ามาตรฐานอยู่ที่ 50 มคก./ลบ.ม. ปริมาณฝุ่นละอองมีแนวโน้มลดลงเกือบทุกพื้นที่จากวานนี้ คุณภาพอากาศโดยรวมคุณภาพดีถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยมีค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน 9 สถานี ได้แก่ ริมถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน, ริมถนนดินแดง เขตดินแดง, แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม, ริมถนนลาดพร้าว ซ.ลาดพร้าว95 เขตวังทองหลาง, ริมถนนนวมินทร์ แยกบางกะปิ เขตบางกะปิ, ริมถนนลาดกระบัง เขตลาดกระบัง, แขวงคลองเตย เขตคลองเตย, แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่, ริมถนนพหลโยธิน เขตบางเขน
ส่วนสถานการณ์คุณภาพอากาศพื้นที่ภาคเหนือ พบค่าฝุ่นPM2.5 ระหว่าง 50 – 170 มคก./ลบ.ม. ใน 21 สถานี คุณภาพอากาศอยู่ในระดับ คุณภาพปานกลางถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นเกินมาตรฐานอยู่ในระดับกระทบสุขภาพ(พื้นที่สีแดง) มี 2 สถานี หนักสุดที่ ต.จองคำ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน วัดค่าฝุ่นได้ 170 มคก./ลบ.ม. และต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ วัดค่าฝุ่นได้ 112 มคก./ลบ.ม.
พื้นที่ที่ค่าฝุ่นเกินมาตรฐานอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพมี 18 สถานี ได้แก่ ต.ในเมือง อ.เมืองกำแพงเพชร, ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก, ต.ในเวียง อ.เมือง จ.น่าน, ต.ห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน, ต.บ้านต๋อม อ.เมือง จ.พะเยา, ต.ท่าหลวง อ.เมือง จ.พิจิตร, ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง, ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง, ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง, ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง, ต.ท่าอิฐ .อ.เมืองอุตรดิตถ์, ต.อุทัยใหม่ อ.เมือง จ.อุทัยธานี, ต.เวียง อ.เมือง จ.เชียงราย, ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย, ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่, ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่, ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่, ต.นาจักร อ.เมือง จ.แพร่
ส่วนค่าฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) ตรวจพบค่าระหว่าง 79 – 186 มคก./ลบ.ม. ค่ามาตรฐานไม่เกิน 120 มคก./ลบ.ม. เกินมาตรฐานที่บริเวณต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก, ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่, ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน
ด้านนายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ(คพ.) เปิดเผยว่า สำหรับพื้นที่ภาคเหนือมีแหล่งกำเนิดจุดความร้อนในพื้นที่จ.ตาก จ.น่าน จ.แพร่ จ.พะเยา จ.ลำพูน และ จ.ลำปาง เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะ จ.ตาก ที่พบจุดความร้อนมากถึง 190 จุด ขณะที่แหล่งกำเนิดนอกพื้นที่ พบจุดความร้อนจำนวนมากในจังหวัดเหนือลม เช่น จ.กาญจนบุรี จ.อุทัยธานี จ.กำแพงเพชร จ.เพชรบูรณ์ จ.พิษณุโลก และ จ.อุตรดิตถ์ มีหมอกควันปกคลุม เห็นได้ชัดเจนจากภาพถ่ายดาวเทียม นอกจากนี้ ยังพบจุดความร้อนบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ทำให้พื้นที่ชายแดนจ.แม่ฮ่องสอน ได้รับผลกระทบจากหมอกควันข้ามแดน
นายประลอง กล่าวอีกว่า ส่วนปัจจัยด้านอุตุนิยมวิทยา ลมใต้/ลมตะวันตกเฉียงใต้ กำลังอ่อน-ปานกลาง อากาศไม่ยกตัวในช่วงเช้า ลมสงบ ทำให้ไม่สามารถระบายฝุ่นละอองออกจากพื้นที่ได้ทำให้ฝุ่นละอองในพื้นที่ภาคเหนือพุ่งสูงขึ้น ทั้งนี้คาดการณ์สถานการณ์ ช่วงระหว่างวันที่ 27 – 28 กุมภาพันธ์ นี้ ลมใต้/ลมตะวันตกเฉียงใต้ กำลังอ่อน-ปานกลาง อากาศยกตัวได้ไม่ดีในช่วงเช้า หากมีการเผาในพื้นที่ รวมไปถึงการเผาในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันตก และประเทศเพื่อนบ้านจะส่งผลให้ระดับฝุ่นละอองเพิ่มสูงขึ้นได้มาก จึงขอให้จังหวัดภาคเหนือและจังหวัดข้างเคียงยังคงควบคุมการเผาอย่างเข้มงวด
จ.แม่ฮ่องสอน
นายประลอง กล่าวว่า ทั้งนี้คพ. ได้ประสานสอบถาม จ.แม่ฮ่องสอน ทราบว่ามีการเร่งระดมสรรพกำลังเพื่อควบคุมไฟในพื้นที่ ออกประกาศห้ามเผา ส่งผลให้จุดความร้อนลดลงจาก 179 จุด เหลือ 90 จุด อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสภาพอากาศ ประกอบกับยังคงมีหมอกควันจากทั้งในและนอกพื้นที่มาสะสมเพิ่มเติม จึงทำให้ฝุ่นละอองยังคงเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง และอยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยคพ.จะรายงานสถานการณ์หมอกควันและจุดความร้อนตามกลไกข้อตกลงอาเซียนเรื่องมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน พร้อมทั้งเน้นย้ำถึงจุดความร้อนจำนวนมากในอนุภูมิภาคแม่โขง ที่ต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างทุกประเทศในการแก้ไขปัญหาโดยด่วน
