กทม.เตรียมมาตรการรับมือ “โควิด-19” หวั่นเข้าระยะ3

วันที่ 3 มีนาคม พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังพบผู้เสียชีวิตรายแรกในไทย และมาตรการเตรียมพร้อมมาตรการรับมือโควิด-19 ระยะ 3 ในส่วนของกรุงเทพมหานคร ว่า กทม.ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (Emergency Operations Center: EOC) กรณีโรคจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ขึ้น เพื่อทำหน้าที่ติดตามสถานการณ์โรค เตรียมความพร้อมมาตรการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรค เตรียมระบบการคัดกรองที่รวดเร็ว จัดระบบคัดแยกโรคและผู้ป่วยที่รวดเร็ว และมีการรายงานระบบข้อมูลตลอด 24 ชั่วโมง ทันทีที่พบผู้ป่วยอย่างเป็นระบบ เพื่อการป้องกันควบคุมโรคติดต่ออุบัติใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมประสานความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในการติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อดังกล่าว ปฏิบัติตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่กำหนดให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตรายลำดับที่ 14 ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 โดยเน้นย้ำให้มีการเฝ้าระวังและการแจ้งต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ กรณีพบผู้ป่วยหรือสงสัยว่าป่วย ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด

พล.ต.ท.โสภณ กล่าวว่า ในส่วนของการเตรียมความพร้อมบุคลากรทางการแพทย์ และสถานพยาบาลในสังกัด กทม. เพื่อรับมือสถานการณ์กรณีเกิดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เข้าสู่ระยะที่ 3 หรือพบการระบาดเป็นวงกว้างในพื้นที่กรุงเทพฯ กทม.ได้จัดทำแผนเวชปฏิบัติสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำการคัดกรองผู้ป่วย ทั้งในส่วนของโรงพยาบาลและศูนย์บริการสาธารณสุข และมีการเตรียมห้องแยกความดันลบ สำรองเวชภัณฑ์ต่างๆ และอุปกรณ์ป้องกันตนเองสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ทุกระดับ รวมทั้งปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อจากผู้ป่วยอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะบุคคลากรที่ต้องให้การดูแลผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อ จะต้องสวมชุดอุปกรณ์ป้องกันตนเองให้เหมาะสม ในส่วนของโรงพยาบาลจะมีระบบการป้องกันโรคติดเชื้อตามมาตรฐาน มีการทบทวนมาตรการและแนวทางป้องกันการติดเชื้อของบุคลากร การอบรมซ้อมแผนภายในโรงพยาบาลอย่างสม่ำเสมอ การทำความสะอาดบิ๊ก คลีนนิ่ง ทุกวันอังคารภายในบริเวณส่วนราชการในสังกัด กทม. ทุกแห่ง กำหนดมาตรการรองรับภาวะฉุกเฉินกรณีโรคโควิด-19 โดยกำหนดช่องทางเข้าออกโรงพยาบาลให้เหลือเฉพาะช่องทางที่จำเป็น ตรวจคัดกรองเบื้องต้นเพื่อความปลอดภัยก่อนเข้าสู่ภายในโรงพยาบาล เปิดคลินิกโรคระบบทางเดินหายใจนอกอาคารโรงพยาบาล รองรับผู้ป่วยเข้าข่ายติดเชื้อไวรัส พร้อมแจกบัตรคำแนะนำด้านสุขภาพ (Health Card) สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงโรคโควิด-19 หลังจากกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง

Advertisement

“หากสงสัยในอาการของโรค สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ สายด่วนสุขภาพ สำนักการแพทย์ 1646 ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง กรณีมีการระบาดวงกว้างได้ร่วมมือกับ โรงพยาบาลในสังกัดกรมการแพทย์ สถาบันกลุ่มโรงพยาบาลแพทย์ศาสตร์แห่งประเทศไทย สมาคมโรงพยาบาลเอกชนและโรงพยาบาลของ 4 เหล่าทัพในการสำรองเตียงทั้งห้องความดันลบและห้องแยกโรครวมทั้งเวชภัณฑ์ ชุดป้องกันการติดเชื้อและอื่นๆร่วมมือกันทั้งพื้นที่กรุงเทพฯในการรับผู้ป่วยไว้และส่งต่อผู้ป่วยในกรณี จำเป็น ครอบคลุมทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ ให้มั่นใจได้ว่าระบบการรักษา สามารถรับมือการระบาดในวงกว้างได้” พล.ต.ท.โสภณ กล่าว

รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า สำหรับมาตรการเชิงรุกในการส่งเสริมความรู้ และให้คำแนะนำแก่ประชาชนเกี่ยวกับวิธีป้องกันตนเองจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 นั้น สำนักการแพทย์ และสำนักอนามัย ได้ลงพื้นที่ให้ความรู้แก่ประชาชนในชุมชนบริเวณรอบโรงพยาบาล ศูนย์บริการสาธารณสุข และพื้นที่ใกล้เคียงให้ปฏิบัติตามมาตรการ “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ และสวมหน้ากากอนามัย” เพื่อควบคุมป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 อีกทั้งได้กำหนดให้ทุกหน่วยงานราชการจัดกิจกรรมทำความสะอาดโดยเฉพาะจุดสำคัญที่ประชาชนสัมผัสร่วมกัน เช่น ราวจับบันไดเลื่อน ปุ่มกดลิฟท์ รถเข็นคนไข้ ห้องน้ำ เก้าอี้ และ พื้นที่อื่นๆ รวมทั้งมีการประชาสัมพันธ์และสอนสุขศึกษาเรื่องโควิด-19 ทั้งในโรงเรียน ชุมชน และสถานประกอบการ เพื่อเป็นการเฝ้าระวังเชิงรุกอย่างต่อเนื่องด้วย

Advertisement

วันเดียวกัน ศูนย์บริการสาธารณสุข กทม.ทั้ง 68 แห่ง ได้จัดกิจกรรมบิ๊ก คลีนนิ่ง ทำความสะอาดอุปกรณ์ทางการแพทย์ โต๊ะ เก้าอี้ มือจับประตู เตียงและม่านกั้นเตียง ฯลฯ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และพ่น/เช็ดโต๊ะ เก้าอี้ มือจับประตู และทุกๆที่ที่มือสัมผัส ด้วยแอลกอฮอล์ 70% อย่างต่อเนื่องทุกวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคลินิกตรวจรักษาโรค กำหนดให้ทำวันละ 2 รอบ ก่อนให้บริการทั้งภาคเช้าและบ่าย

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image