เมื่อวันที่ 11 มีนาคม นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยถึงกรณีพนักงานบริษัทแกร็บ ประเทศสิงคโปร์ ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 หรือโควิด-19 หลังกลับจากประเทศไทย โดยบริษัทมีการปิดอาคารสำนักงานทั้งในประเทศไทยและสิงคโปร์เพื่อทำความสะอาด ว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า พนักงานรายนี้เข้ามาที่ประเทศไทยเพียง 1 วัน เมื่อวันที่ 5 มีนาคม และเดินทางกลับวันที่ 6 มีนาคม และเมื่อวันที่ 7 มีนาคม ที่เดินทางกลับไปสิงคโปร์ ถูกวินิจฉัยว่ามีการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หากดูระยะฝักตัวของโรคนี้ คาดว่าจะได้รับเชื้อมาก่อนหน้าที่จะมาประเทศไทย เนื่องจากมีประวัติเดินทางไปที่ประเทศอังกฤษด้วย และทั้ง 2 ประเทศมีการแพร่ระบาดของโรค ผลการสอบสวนโรคในที่ทำงาน จำนวน 84 ราย ไม่มีผู้ป่วยและผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ (แล็บ) ไม่พบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กรณีนี้สรุปได้ว่าไม่ได้เป็นการติดเชื้อในประเทศไทย และไม่ได้แพร่เชื้อให้คนไทย ขณะนี้รักษาอยู่ที่สิงคโปร์
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
“กรณีนี้ก็คล้ายกับกรณีชาวต่างชาติรายอื่น ที่เข้ามาในไทยเพียงวันเดียวแล้วกลับไปและพบว่ามีการป่วยด้วยโรคนี้ ซึ่งคาดว่าว่าเป็นการรับเชื้อก่อนเข้ามาประเทศไทย สำหรับกรณีผู้ป่วยต่างชาติเช่นนี้ถือว่ามีความเสี่ยงน้อยกว่าคนไทย เพราะมาไทยแล้วยังไม่ป่วยแล้วกลับไปป่วยที่ประเทศตัวเอง โอกาสแพร่เชื้อให้คนไทยจะน้อย เพราะมาแล้วกลับและไม่ได้ใกล้ชิดกับคนไทยมาก แต่ในทางกลับกัน คนไทยเองเพราะกลับมาจากต่างประเทศแล้วอยู่ในเมืองไทยยาว และมีความใกล้ชิดกับคนไทยด้วยกันเองมากกว่า ทั้งคนในครอบคัรว คนในที่ทำงาน เมื่อพูดถึงความเสี่ยงต่างชาติอยู่สั้นอย่างไรก็เสี่ยงน้อยกว่า” นพ.โสภณ กล่าว
