ด่วน! ไทยยอด “โควิด-19” พุ่ง วันเดียวพบ 33 ราย

เมื่อวันที่ 16 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และ นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ โฆษก สธ. ร่วมแถลงมาตรการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 โดยศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

นพ.รุ่งเรือง กล่าวว่า วันนี้ประเทศไทยพบผู้ป่วยใหม่เพิ่ม 33 ราย แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 ผู้ป่วยที่สัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ในลักษณะการป่วยเป็นกลุ่มก้อน เช่น ผู้ที่อยู่ในที่สนามมวย 7 ราย จากเดิมที่พบ 9 ราย สถานบันเทิงที่พบผู้ป่วย รวมทั้งสิ้นจำนวน 16 ราย กลุ่มที่ 2 คือ ผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ และผู้ทำงานใกล้ชิดกับชาวต่างประเทศ จำนวน 17 ราย โดยสรุปขณะนี้ประเทศไทยมีผู้ป่วยยืนยันสะสมทั้งหมด 147 ราย รักษาหายแล้ว 36 ราย อยู่ในโรงพยาบาล (รพ.) 108 ราย และเสียชีวิต 1 ราย

นพ.รุ่งเรือง กล่าวว่า สธ.ขอยืนยันว่าโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 ติดต่อด้วยการไอ หรือ จามออกมาด้วยละอองฝอยขนาดใหญ่ที่อยู่ในระยะ 1 เมตร และติดต่อทางการสัมผัสเชื้อผ่านน้ำมูกน้ำลาย สารคัดหลั่ง ทั้งนี้ผู้ป่วยทั้งโรคไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ และโรคไวรัสโคโรนา 2019 ที่โดยอาการแล้วมีลักษณะอาการป่วยที่คล้ายกัน ดังนั้นหากพบว่ามีอาการป่วย มีไข้ ไอ จาม จะต้องสวมหน้ากากอนามัยป้องกันโรคไม่ให้แพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น และต้องแยกตัวออกจากผู้อื่นเพื่อไม่ให้เกิดการติดต่อเป็นวงกว้าง แต่สำหรับผู้ที่เสี่ยงจะเป็นโรคไวรัสโคโรนา2019 จะต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจทางห้องปฏิบัติการ

Advertisement

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

 

 

Advertisement

ด้าน นพ.โสภณ กล่าวว่า สถานการณ์ของโรคไวรัสโคโรนา2019 ในประเทศไทย พบผู้ป่วยในรอบสัปดาห์ค่อนข้างมาก จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังตนเอง หลีกเลี่ยงไปอยู่ในพื้นที่แออัด ผู้ที่มีอาการป่วยน้อยแนะนำให้พักผ่อนอยู่บ้าน แต่หากมีไข้สูงติดต่อกันเกิน 47 ชั่วโมง ให้รีบไปพบแพทย์ และสำหรับผู้ที่เดินทางกลับจากพื้นที่ที่ประกาศเป็นเขตติดโรคนอกราชอาณาจักรตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ได้แก่ จีน เกาหลีใต้ อิตาลี อิหร่าน รวมถึง 2 เขตปกครองพิเศษ คือ ฮ่องกง และมาเก๊า และประเทศในทวีปยุโรป เมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทยขอให้รายงานตัวกับเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อที่สนามบิน เพื่อตรวจคัดกรองโรค และเมื่อผ่านการคัดกรองและอยู่ในระยะเวลาการกักกัน 14 วัน หากพบว่ามีอาการป่วยภายหลังให้ติดต่อที่สายด่วนกรมควบคุมโรค1422 แต่หากจะเดินทางไป รพ.ต้องสวมหน้ากากอนามัยและหลีกเลี่ยงการใช้รถสาธารณะ แนะนำให้ใช้รถส่วนตัว

นพ.โสภณ กล่าวว่า ในช่วงเวลาตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา หากประชาชนที่มีประวัติเดินทางไปในสถานที่ที่พบผู้ป่วยเป็นกลุ่มก้อน เช่น สนามมวย ผับ สถานบันเทิง แล้วสงสัยว่าตนเองได้รับเชื้อไวรัส หรือมีอาการ ไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ ให้รีบไปตรวจรักษา แต่หากยังไม่มีอาการป่วยให้หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดผู้อื่น เนื่องจากอาจจะมีการรับเชื้อไวรัสไปแล้วแล้วแต่ยังไม่มีอาการ สธ.จึงแนะนำว่าให้สังเกตอาการตนเอง วัดไข้ทุกวัน และระมัดระวังตนเองเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยในประเทศไทยลดลง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image