อสม.เคาะประตูบ้านให้คำแนะนำ ‘โควิด-19’ กว่า 1.6 ล้านหลังคาเรือน

วันที่ 20 มีนาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ สธ. พร้อมด้วย นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการ สธ. และ นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เปิดการประชุมวิชาการ อสม.เคาะประตูบ้าน ต้านโรคโควิด-19 เนื่องในวันอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งชาติ ประจำปี 2563 โดยมีประธานชมรม อสม.ระดับจังหวัดทั่วประเทศ เข้าร่วมประชุม เพื่อให้ความรู้และสนับสนุนบทบาทในการเฝ้าระวัง ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในชุมชน พร้อมมอบรางวัลการประกวดจัดทำหน้ากากผ้าของ อสม.ในระดับจังหวัด
นายอนุทินกล่าวว่า วันที่ 20 มีนาคมของทุกปี เป็นวันอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งชาติ ในปีนี้ สธ.ได้จัดประชุมวิชาการ อสม.เคาะประตูบ้านต้านโรคโควิด-19 โดยเชิญประธานชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ทุกจังหวัดมาร่วมประชุมที่ส่วนกลาง จัดที่นั่งระยะห่างกัน และให้ อสม.ทั่วประเทศ ร่วมประชุมออนไลน์ผ่านการถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊ก ลดความเสี่ยงในการรวมกลุ่ม ตามนโยบายรัฐบาลที่ให้มีการเว้นระยะห่างจากสังคม (Social Distancing) งดการทำกิจกรรมทางสังคม ขณะเดียวกัน ให้ อสม.ซึ่งเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของชุมชนออกเคาะประตูบ้าน ให้ความรู้ คำแนะนำประชาชนในการเฝ้าระวังป้องกันโรค ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วกว่า 1.6 ล้านหลังคาเรือน รวมทั้งติดตามสังเกตอาการผู้ที่เดินทางกลับมาจากประเทศที่มีการระบาดของโรคต่อเนื่อง

ด้านนายสาธิตกล่าวว่า อสม.ที่มีจำนวนกว่า 1 ล้านคนทั่วประเทศ เป็นกำลังหลักในการดูแลคนในชุมชน ได้ออกไปเคาะประตูบ้านให้ความรู้แก่ประชาชนและติดตามกลุ่มเสี่ยง สอนทำหน้ากากผ้า และเจลแอลกอฮอล์ สำหรับไว้ใช้ในครัวเรือน ลดปัญหาการขาดแคลนหน้ากากอนามัย ประหยัดค่าใช้จ่าย โดยได้เริ่มดำเนินการไปเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2563 โดยก่อนออกปฏิบัติงาน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ได้จัดอบรมให้ความรู้ในการป้องกันตนเอง จัดหาหน้ากากผ้าและเจลล้างมือให้กับ อสม.ทุกคน

นพ.ธเรศกล่าวว่า วัน อสม.ในปีนี้ ได้จัดกิจกรรมรณรงค์ให้ความรู้ การสอนทำหน้ากากอนามัยจากผ้า และทำเจลแอลกอฮอล์สำหรับล้างมือ พร้อมมอบรางวัลประกวดจัดทำหน้ากากอนามัยจากผ้า ประเภทชมรม อสม. ระดับจังหวัด จำนวน 3 รางวัล ได้แก่ บึงกาฬ ปัตตานี และกระบี่ รับเงินรางวัลๆ ละ 5,000 บาท

Advertisement

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

 

 

Advertisement

ทั้งนี้ การประชุมในครั้งนี้ได้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 โดยเว้นระยะห่างทางสังคม หรือ social distance ถ่ายทอดสดแบบออนไลน์ เพื่อลดจำนวนผู้เข้าร่วมประชุม ส่วนผู้ที่เข้าประชุมได้มีการจัดแบ่งห้องประชุม และจัดที่นั่งให้ห่างกันในระยะ 2 เมตร พร้อมจัดให้มีเจลแอลกอฮอล์ไว้หน้าห้องประชุมทุกห้อง นอกจากนี้ ผู้ร่วมประชุมทุกคน ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย และตรวจวัดอุณหภูมิจากกล้องถ่ายภาพความร้อนก่อนเข้างาน เพื่อป้องกันและลดการแพร่ระบาดของโรค

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image