สถาบันกัลยาณ์ฯ เร่งหาเหตุจูงใจ “จิตรลดา” ฆ่าเด็ก 5 ขวบ เผยอยู่ในช่วงติดตามอาการจิตเวช

ความคืบหน้ากรณี น.ส.เป็ด ไม่ทราบนามสกุล ก่อเหตุใช้อาวุธมีแทง ด.ญ.ทิพย์ นามสมมติ อายุ 5 ขวบ เสียชีวิต ในพื้นที่ จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งต่อมามีการตรวจสอบประวัติพบว่า ผู้ก่อเหตุคือ น.ส.จิตรลดา ตันติวณิชยสุข เคยก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงเด็กนักเรียนหญิงโรงเรียนเซนต์โยเซฟ คอนเวนต์ 4 คน จนได้รับบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2548 และขณะนั้นแพทย์ตรวจพบว่ามีอาการทางจิตเวช และได้ถูกส่งตัวไปบำบัดรักษาอาการที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ พุทธมลฑลสาย 4 กระทั่งได้รับการปล่อยตัวให้กลับบ้านได้เพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น

เมื่อวันที่ 30 มีนาคม นพ.ศรุตพันธุ์ จักรพันธุ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ไม่สามารถลงรายละเอียดของผู้ป่วยได้ เนื่องจากเป็นจรรยาบรรณของแพทย์ แต่ในผู้ป่วยรายนี้ได้มีการเข้าบำบัดรักษาที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์จริง และในตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา มีการเข้าและออกสถาบันฯ อยู่เป็นประจำ เนื่องจากเป็นระยะของการเฝ้าดูอาการ หากมีอาการปกติก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้าน อยู่ร่วมกับคนในสังคมได้ โดยจะมีมารดา ทีมแพทย์และผู้เกี่ยวข้องเข้าไปดำเนินการตรวจสอบอยู่เป็นระยะ หากพบว่ามีอาการรุนแรงจะต้องนำเข้าบำบัดในสถานพยาบาล ซึ่งในระหว่างนี้ผู้ป่วยจะต้องห้ามขาดยาเด็ดขาด เนื่องจากเป็นผู้ป่วยด้านจิตเวช

“คนไข้เพิ่งออกจากสถาบันฯ เมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา และมีนัดพบแพทย์อีกครั้งวันที่ 31 มีนาคมนี้ ซึ่งโดยปกติหากคนไข้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว จะต้องมีการนัดมาตรวจใน 2 สัปดาห์ หรือ 1 เดือน แต่ในกรณีนี้จะต้องมีการประเมินเพิ่มเติมว่ามีปัจจัยใดเกิดขึ้น” นพ.ศรุตพันธุ์ กล่าว

นอกจากนี้ นพ.ศรุตพันธุ์ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างการสอบสวน และล่าสุดผู้กระทำความผิดอยู่ในระหว่างการรักษาอาการด้านสุขภาพกายที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม แล้วจึงจะส่งตัวเพื่อกลับมารักษาที่สถาบันฯ เพื่อตรวจประเมินสุขภาพทางจิต เช่น ผู้ป่วยเป็นผู้กระทำจริงหรือไม่ มีปัจจัยอะไรที่ทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ซึ่งเมื่อเป็นคดีความทางกฎหมาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการแจ้งความ และมีการส่งผู้ป่วยมายังสถาบันฯ เพื่อเข้ากระบวนการนิติจิตเวช เพื่อสอบสวนและให้ความเป็นธรรมกับผู้ต้องหาต่อไป โดย 1.ตรวจสอบว่ามีการป่วยจริงหรือไม่ 2.ในขณะกระทำนั้นรู้ตัวหรือไม่ และ 3.ผู้ต้องหามีความพร้อมในการให้ปากคำที่ศาลหรือไม่

Advertisement

“แต่ถ้าหากยังไม่มีความพร้อม ก็จะต้องบำบัดรักษาอาการให้หายก่อนจึงจะดำเนินการขึ้นศาลได้ ซึ่ง 3 สิ่งนี้ทางสถาบันฯ จะต้องเป็นผู้ดำเนินการและรายงานต่อศาลต่อไป” นพ.ศรุตพันธุ์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image