สธ.เผย พบผู้ป่วย”โควิด-19” กทม-ตจว. ครึ่งต่อครึ่ง ชี้กลุ่มสนามมวยอยู่ในระดับที่คุมได้

สธ.เผย พบผู้ป่วย”โควิด-19” กทม-ตจว. ครึ่งต่อครึ่ง ชี้กลุ่มสนามมวยอยู่ในระดับที่คุมได้

เมื่อวันที่ 2 เมษายน ที่ กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค รศ.พิเศษ นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ที่ปรึกษากรมควบคุมโรค แถลงข่าวความคืบหน้าของสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

นพ.โสภณ กล่าวว่า การพบผู้ป่วยรายใหม่จำนวน 104 ราย สังเกตได้ว่ามีจำนวนไม่น้อยเป็นผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้าแล้ว กล่าวคือ หากพบผู้ป่วยยืนยัน ก็จะมีการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดและหากผู้สัมผัสเหล่านั้นให้ความร่วมมือดี ก็ทำให้มีการติดตามตัวง่าย และนำมาสู่การกักกันตนเอง 14 วันและเว้ยระยะห่างจากผู้อื่นเพื่อดูอาการต่อเนื่องทุกวันหากมีอาการป่วย ไข้ อาการทางระบบทางเดินหายใจ ก็จะได้รับการตรวจวินิจฉัยได้อย่างรวดเร็ว ในจำนวนผู้ป่วย 104 รายมีจำนวน 41 รายที่เป็นผู้ป่วยรายใหม่ แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยมีระบบติดตามที่เข้มแข็ง ประชาชนให้ความร่วมมืออย่างดี ที่จะเข้ารับการดูแลอย่างใกล้ชิด

นพ.โสภณ กล่าวว่า ผู้ป่วยยืนยันอีกกลุ่มคือ กลุ่มที่เดินทางกลับจากประเทศ เช่น ร่วมพิธีศาสนา ธุรกิจ ท่องเที่ยว ในส่วนนี้จะมีประมาณ 22 รายจาก 104 ราย หากดูสถานการณ์ประเทศรอบนอกประเทศไทยมีการระบาดที่รุนแรง เช่น ทวีปยุโรปและในเอเชียบางประเทศ ดังนั้นผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ จะปฏิบัติตามคำแนะนำของ สธ.และการบินพลเรือน คือ ต้องสังเกตอาการตนเองก่อนเดินทางในระยะเวลา 14 วัน เพื่อให้มั่นใจว่าไม่ป่วย จึงทำการเดินทางกลับมาในประเทศไทย และในระหว่างเดินทาง ต้องจะป้องกันตนเอง วัดไข้ก่อนขึ้นเครื่องบิน สวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือบ่อยๆ เลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้อื่น เพื่อลดโอกาสเสี่ยงในการติดโรค ทั้งนี้ในกลุ่มที่เดินทางกลับมาแล้ว และเป็นผู้ป่วยยืนยันจำนวน 22 ราย มีบางส่วนที่ขึ้นเครื่องทั้งที่รู้ว่าตนเองมีอาการป่วย ซึ่งเป็นอันตรายต่อตนเองเพราะเป็นช่วงเวลาที่ไม่ได้อยู่ในระหว่างการดูแลของแพทย์ อาการป่วยอาจจะมีแย่ลง จึงควรรักษาอาการป่วยให้หายดีก่อนจึงเดินทาง และอันตรายไปถึงผู้ร่วมเดินทาง เนื่องจากมีโอกาสได้รับเชื้อไวรัสร่วมด้วย ซึ่งจะต้องได้รับการกักกัน จึงขอให้ประชาชนลดความเสี่ยงต่อตนเองและต่อสาธารณะ ไม่เดินทางระหว่างที่มีอาการเจ็บป่วย

Advertisement

นพ.โสภณ กล่าวว่า กลุ่มของสถานบันเทิง หรือ สถานบริการที่เกี่ยวข้องกับนักท่องเที่ยว ถึงแม้ว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวน้อยลง แต่ยังมีบางส่วนที่ตกค้างหรือเดินทางเข้ามาใหม่ ซึ่งอาจจะเดินทางเข้ามาพร้อมกับโรคติดเชื้อ เมื่อเดินทางเข้ามาในประเทศไทยประมาณ 1 สัปดาห์ ก็จะมีการตรวจพบว่ามีการติดเชื้อ ดังนั้นผู้ที่คนที่ทำงานให้บริการนักท่องเที่ยว ยังมีความเสี่ยงอยู่จึงต้องป้องกันตนเองด้วยการสวมหน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ติดเชื้อและลดความเสี่ยงในการรับเชื้อ กลุ่มของสนามมมวย พบว่ามีผู้ป่วยลดลงเรื่อยๆ ซึ่งในวันนี้พบเพียง 1 ราย ซึ่งเป็นผู้เข้ามาชมมวย และพบว่ามีอาการป่วยเมื่อสัปดาห์ก่อน

“อย่างไรก็ตามคิดว่ากลุ่มก้อนที่เกิดสนามมวย ขณะนี้อยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ เหตุการณ์ผ่านมา 3 อาทิตย์เศษแล้ว เพราะฉะนั้นการป่วยจากสนามมวยจะอยู่ในระดับที่ลดลงและควบคุมได้ ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลเพื่อเป็นแนวทางควบคุมป้องกันไม่ให้แพร่ระบาดต่อ” นพ.โสภณ กล่าวว่า
นพ.โสภณ กล่าวต่อว่า ส่วนในต่างจังหวัด ขอต้องขอชื่นชมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สาธารณสุขและฝ่ายปกครอง รวมทั้งประชาชนที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และส่วนใหญ่จัดการได้ดี ดังนั้นสถานการณ์ในภาพรวมของประเทศไทย คือ พบผู้ป่วยยืนยันในกรุงเทพมหานคร(กทม.) จำนวหนึ่งร้อยละ 50 และในต่างหจังหวัด ร้อยละ 50 ซึ่งไม่ใช่จำนวนที่เพิ่มขึ้นมากผิดปกติ และจำนวนผู้รายใหม่รวมในวันนี้จึงลดลงเล็กน้อยจากเมื่อวันที่ 1 เมษายน ที่พบผู้ป่วยใหม่ถึง 120 ราย แต่อย่างไรก็ตามในวันนี้มีการพบผู้ป่วยที่เสียชีวิต 3 ราย เพราะมีประวัติการติดเชื้อในระยะ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image