ด่วน! กักตัว10จนท.สุวรรณภูมิสัมผัส ลุงโควิด คนเข็นวิลแชร์ก็โดนกัก

ด่วน! กักตัว10จนท.สุวรรณภูมิสัมผัส ลุงโควิด คนเข็นวิลแชร์ก็โดนกัก

ตม.ระทึก สั่งกักตัวเจ้าหน้าที่ 10 คนที่สัมผัส ตรวจคัดกรอง ลุงโควิด ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ทั้งคนเข็นวิลแชร์ให้ ก็โดนกักตัวด้วยเช่นกัน

หลังจากเกิดกรณี ชายวัย 57 ปีเสียชีวิตบนขบวนรถไฟ เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา แล้วผลการตรวจพบว่าเสียชีวิตเพราะหัวใจวายเฉียบพลัน และยังพบว่าชายคนดังกล่าวติดไวรัสโควิด-19 ด้วย อย่างไรก็ตาม ยังพบว่าชายคนนี้บินมาถึงสุวรรณภูมิเมื่อวันที่ 29 มี.ค. มีใบรับรองแพทย์ Fit to fly และวัดอุณหภูมิไม่พบว่ามีไข้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันที่ 3 เม.ย. มีรายงานข่าวจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า มีการเผยแพร่ภาพวงจรปิดเห็นชายคนนี้รอตรวจคัดกรองอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยภาพดังกล่าวเป็นภาพบริเวณพื้นที่ผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ

Advertisement

ในภาพนั้น มีตำรวจตรวจคนเข้าเมืองของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) ตั้งจุดตรวจวัดไข้ผู้โดยสารขาเข้า ซึ่งในครั้งแรกเป็นการตรวจด้วยการใช้เครื่องวัดอุณหภูมิโดยตรวจวัดบริเวณหน้าผากของผู้โดยสารทุกคน ซึ่งก็รวมลุงคนดังกล่าวด้วย ซึ่งพบว่าอุณหภูมิไม่เกินกำหนด

หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตม. จะขอตรวจสอบเอกสารในการเดินทางเข้าเมืองของผู้โดยสารทุกคนด้วยว่าถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ โดยในส่วนของชายคนดังกล่าว ได้แสดงเอกสารใบ fit to fly และใบรับรองจากสถานทูตให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่าครบถ้วน จากนั้นจึงจะปล่อยให้เดินออกไป ซึ่งระหว่างทางสนามบินจะมีเครื่องเทอร์โมสแกนตรวจจับอุณหภูมิอีก 2 ครั้งด้วย

ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่ทำงานภายในสนามบิน ได้หารือร่วมกันเพื่อตรวจสอบว่ามีใครสัมผัสใกล้ชิดกับชายคนดังกล่าวบ้าง จากภาพจะเห็นชัดเจนว่ามีเจ้าหน้าที่ ตม.หลายคนที่ยืนอยู่ใกล้กับชายคนดังกล่าวมาก

สตม.ได้สั่งกักตัวเจ้าหน้าที่ที่สัมผัสใกล้ชิดทั้งหมดแล้ว พร้อมทั้งไปทำการตรวจคัดเชื้อโควิด และยังมีเจ้าหน้าที่ สนามบินที่สัมผัสใกล้ชิดอีกส่วนหนึ่ง คือ คนเข็นรถวีลแชร์ให้ลุงคนดังกล่าว และแท็กซี่ที่พาชายคนดังกล่าวไปยังที่พัก ซึ่งรวมแล้วมีเจ้าหน้าที่สนามบินมากกว่า 10 คนที่สัมผัสใกล้ชิด ต้องกักตัวและรอการตรวจคัดเชื้อโควิด

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับแท็กซี่ที่รับชายที่ติดเชื้อโควิดขึ้นรถนั้น ทางสธ.ติดตามจนเจอตัวแล้ว และเข้ารับการตรวจเบื้องต้นแล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image