เผย “อนุทิน” จดยิก คิดละเอียด ก่อนเสนอกลางที่ประชุม ครม. ให้ พนักงาน สธ. เป็น ขรก.ย้ำ สร้างขวัญ กำลังใจคนทำงาน

เผย “อนุทิน” จดยิก คิดละเอียด ก่อนเสนอกลางที่ประชุม ครม. ให้ พนักงาน สธ. เป็น ขรก.ย้ำ สร้างขวัญ กำลังใจคนทำงาน สุดท้ายผ่านฉลุย

กระทรวงสาธารณสุข- กรณีที่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในหลักการที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เสนอให้พนักงานกระทรวงสาธารณสุข กว่า 4 หมื่นตำแหน่ง ได้บรรจุเป็นข้าราชการ

เมื่อวันที่ 3 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการประชุม นายอนุทินได้เตรียมข้อมูลมาอย่างดี โดยจดรายละเอียดในสิ่งที่เตรียมจะเสนอ ครม.ไว้ในกระดาษหลายแผ่น เนื้อหามีดังนี้

“วันนี้มีเรื่องของกระทรวงสาธารณสุขอยู่ 7 เรื่องที่เกี่ยวกับการเยียวยาโควิด 19 แต่ผมจะขอนำเสนอด้วยตนเองในเรื่องที่ 3 คืนเรื่องการขอบรรจุข้าราชการเพิ่มเติม จากที่เป็นพนักงานราชการ พนักงานกระทรวงสาธารณสุข และลูกจ้างกระทรวงสาธารณสุข ในส่วนนี้ ที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ดูแลสถานการณ์ จำนวน 45,684 คน

จากบุคลากรประเภทนี้ที่อยู่ในกระทรวงสาธารณสุขประมาณ 160,000 คน แต่ผมขอความกรุณา คณะรัฐมนตรีอย่าเพิ่งไปสนใจเรื่องจำนวน

Advertisement

บุคลากรเหล่านี้ ล้วนเป็นบุคลากรวิชาชีพ อาทิเช่น แพทย์พยาบาล เภสัชกร นักเทคนิคการแพทย์ เป็นบุคลากรที่มีทักษะ และได้รับการอบรมเป็นอย่างดี ประเทศจะต้องรักษา ให้ระบบสาธารณสุข คงจำนวนบุคลากรเหล่านี้ ให้อยู่ในระบบอย่างยั่งยืน

แต่ด้วยข้อจำกัดต่างๆของกลไกราชการ บุคลากรเหล่านี้ มีสภาพเป็นเพียงพนักงานหรือลูกจ้างของรัฐ กระทรวงสาธารณสุข ใช้เงินบำรุง ของแต่ละโรงพยาบาล มาว่าจ้าง ทำให้เกิดการหมุนเวียนเปลี่ยนผ่านของบุคลากรในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก เพราะเมื่อมีข้อสนอที่ดีกว่าจากภาคส่วนอื่นๆ เขาก็ต้องไปทำงาน ในที่ที่มีรายได้มากกว่า ทั้งที่ต้นทุนในการฝึกฝนทักษะ รัฐเป็นผู้ลงทุนไว้

เมื่อมีสถานการณ์โรค Covid-19 ในครั้งนี้ เราได้เห็นความทุ่มเท เสียสละ และความมุ่งมั่น ของบุคลากรสาธารณสุขเหล่านี้ ที่เข้าไปต่อสู่ รักษา ป้องกัน อย่างสุดความสามารถ ที่จะทำใก้เกิดความปลอดภัยแก่คนในชาติ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ติดเชื้อ ซึ่งมีการยืนยันแล้วว่า โรคโควิด นอกจากจะคร่าชีวิตผู้ป่วยจำนวนมากแล้ว ยังเป็นโรคที่คร่าชีวิตบุคลากร สธ. มากที่สุดด้วย

Advertisement

การปรับสถานะให้เขามีความมั่นคงในอาชีพการงาน จะทำให้คุณภาพของการบริการผู้ป่วยได้รับการยกระดับอย่างชัดเจน เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ค้างคามานานต้องใช้อำนาจในการบริหารเท่านั้น ที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของเขาได้

บุคคลเหล่านี้เป็นผู้เชี่ยวชาญชำนาญเฉพาะทาง เป็นสายอาชีพ ที่นำเสนอมานี้ไม่ใช่เป็นการขออัตราเพิ่ม แต่เป็นการ ทุกวันนี้ ทำให้ระบบมีความสมบูรณ์ ทุกวันนี้เราใช้เงินบำรุงจากโรงพยาบาลจ้าง ก็เหมือนกับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปวันๆ ต่อให้ปรับสถานะของเขา ก็ไม่ได้เท่ากับจะทำให้เขามีรายได้เท่ากับที่เขาไปทำงานกับเอกชน แต่อย่างน้อยคำว่าข้าราชการก็จะทำให้เขามีความภาคภูมิใจในวิชาชีพของพวกเขา สามารถทดแทนทางเลือก ที่จะไปทำงานในภาคส่วนอื่น เนื่องจากมีความมั่นคงและมีเกียรติยศ

สิ่งที่เรากำลังทำอยู่นี้เป็นการเตรียมความพร้อมของระบบสาธารณสุขของประเทศ ให้เรามีความยั่งยืนมั่นคงมากขึ้นกว่าเดิม

เราจะมีบุคลากรด้านการสาธารณสุข ที่เปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ความพร้อมและศักยภาพ ในการรับมือโรคระบาดใหญ่ในอนาคต และที่สำคัญที่สุด เรากำลังสร้างฐานที่มั่นคงให้กับการสาธารณสุข ที่พร้อมดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในอนาคตอันใกล้นี้

หลังจากโควิด คนเหล่านี้จะเป็นผู้ดูแล รักษา และป้องกันโรค ประเทศไทยจะกลายเป็นสังคมผู้สูงอาย ที่แข็งแรงมั่นคง ยั่งยืน และเป็นประเทศที่มีระบบการสาธารณสุขที่เข้มแข็งอันดับต้นๆของโลกตลอดไป

หากข้อเสนอนี้ ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เราจะสร้างความมั่นคงให้กับบุคลากรด้านการสาธารณสุขได้เป็นจำนวนมาก และเป็นการวางรากฐานและเสริมระบบที่มั่นคงให้กับระบบ สธ. ให้แข็งแกร่งยั่งยืน ด้วยผลลัพธ์ที่ได้มาคือ สธ.มีบุคลากรที่เข้มแข็ง มากด้วยประสบการณ์ และความชำนาญ

โรงพยาบาลไม่ต้องนำเงินบำรุงมาจ้างบุคลากรที่มีความไม่แน่นอน ว่าจะอยู่ได้นานหรือไม่ และสามารถนำเงินเหล่านี้ไปพัฒนาหน่วยบริการ แก้ไขปัญหาการเงิน ตามภารกิจของ ร.พ.ได้

นี่คือสิ่งที่ได้รับกลับมา ซึ่งจะส่งผลให้ความพยายามและความทุ่มเท ที่พวกเขาใส่ลงไป ไม่สูญเปล่า”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image