คพ.ชี้ จุดความร้อนระหว่างประเทศชายแดนภาคเหนือลดลง หลังจากประชุมร่วมเมียนมา-ลาว

คพ.ขี้ จุดความร้อนระหว่างประเทศชายแดนภาคเหนือลดลง หลังจากประชุมร่วมเมียนมา-ลาว

สถานการณ์หมอกควันไฟป่าภาคเหนือ วันที่ 6 เมษายน นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เปิดเผยว่า นับจากการประชุม VTC ระหว่างประเทศเมียนมา สปป.ลาว สำนักเลขาธิการอาเซียน และประเทศไทย  เมื่อวันที่ 3 เมษายน ที่ผ่านมา ทั้งเมียนมา และ สปป.ลาว ดำเนินมาตรการควบคุมจุดความร้อน และมลพิษข้ามแดนอย่างเต็มที่ ส่งผลให้จุดความร้อน (Hotspot) ในเมียนมาและสปป.ลาว ลดลงอย่างชัดเจนและต่อเนื่อง

“โดยสรุปจำนวนจุดความร้อน (Hotspot) ในอนุภูมิภาคแม่โขง จุดความร้อนรายวัน  วันที่ 3-5 เมษายน 2563 ในเมียนมา พบจุดความร้อน 8,167 จุด ลดลงเหลือ 5,197 จุด สปป.ลาว พบจุดความร้อน 4,236 จุด ลดลงเหลือ 1,713 จุด และไทย  พบจุดความร้อน 3,962 จุด ลดลงเหลือ 1,804 จุด และมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง”นายประลอง กล่าว

นายประลอง กล่าวว่า สถานการณ์คุณภาพอากาศในภาคเหนือตอนบน วันที่ 6 เมษายน 2563 ค่าฝุ่นละออง PM2.5 ยังคงอยู่ในระดับที่ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ได้แก่ จ.เชียงราย จ.เชียงใหม่ จ.แม่ฮ่องสอน พะเยา และ จ.น่าน ในส่วนของภาคเหนือตอนล่างคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) เกือบทุกจังหวัด ยกเว้น จ.อุตรดิตถ์ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในภาพรวมดีขึ้น เนื่องจากจุดความร้อนในประเทศไทย เมียนมา และสปป.ลาว ลดลงอย่างต่อเนื่อง สรุปสถานการณ์ปริมาณ “ฝุ่นละออง PM2.5” เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ใน 17 จังหวัดภาคเหนือ ณ เวลา 09.00 น. มีค่าระหว่าง  26 – 234 มคก./ลบ.ม. ในภาพรวมส่วนใหญ่มีแนวโน้มลดลง โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างที่คุณภาพอากาศดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามค่าฝุ่นละอองในภาคเหนือ แม้ว่าในภาพรวมจะลดลง แต่ก็ยังมีการสะสมอยู่ โดยค่าสูงสุดที่ “จ.เชียงใหม่ ( อ.เชียงดาว)” 234 มคก./ลบ.ม.

“การแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดน คพ. ยังคงติดตามสถานการณ์และประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างใกล้ชิด เพื่อร่วมกันในการควบคุมปริมาณจุดความร้อน และ ทส. ยังคงดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันอย่างต่อเนื่อง และผู้บริหาร ทส.ได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ที่ปฎิบัติงานอย่างเต็มที่ จนสถานการณ์ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จุดความร้อนลดลงอย่างชัดเจน เกิดผลเป็นรูปธรรมเน้น และยังคงเน้นย้ำการสื่อสารกับประชาชนให้มีความเข้าใจ การบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ต้องหาตัวผู้กระทำผิดให้ได้ หากจับกุมผู้กระทำความผิดได้ ขอให้ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม การดำเนินการในการแก้ไขปัญหาหมอกควันในพื้นที่เสี่ยง ขอให้เจ้าหน้าที่คำนึงถึงสวัสดิภาพและความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะการเข้าดับไฟและใช้ชีวิตในป่า/หมู่บ้าน ขอให้ระวังเรื่องการดูแลตัวเอง และปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข เรื่องการป้องกัน COVID-19 ด้วย” นายประลอง กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image