จับพรานล่าสัตว์ เผาป่า แถมฟันจนท.บาดเจ็บ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ
เผาป่า ล่าสัตว์ วันนี้ 9 เมษายน 2563 นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เปิดเผยว่าตามนโยบาย ของนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีทส.นายจตุพร บรุษพัฒน์ ปลัดทส.นายธัญญาเนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้ดำเนินการ ขั้นเด็ดขาด กับผู้เผาป่า ล่าสัตว์ เพื่อป้องกันและรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้คงอยู่ตลอดไป
นายจำนงค์ กล่าวว่า ได้รับรายงานจากนาย ไพฑูรย์ ธนะบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ จังหวัดกาญจนบุรี แจ้งว่า เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2563 ช่วงเย็นที่ผ่านมา คณะเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธ สัตว์ป่าสลักพระ ได้ร่วมกันออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับกฎหมายการป่าไม้ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ เพื่อป้องกันการลักลอบจุดไฟเผาป่า และล่าสัตว์ป่า ตามนโยบายฯในช่วงเย็นได้ออกตรวจฯ มาถึงบริเวณป่าหุบข่อย หมู่ที่ 1 ตำบลแม่แฉลบ อำเภอศรีสวัสดิ์ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ได้พบ ชาย 4 คน เดินทางออกมาจากป่าสะพายอาวุธปืนยาวและถุงปุ๋ย จำนวนหนึ่ง คณะเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อทำการตรวจสอบและจับกุมชายทั้ง 4 คน ดังกล่าว เมื่อได้เห็นคณะเจ้าหน้าที่ได้วิ่งหลบหนี หนึ่งในชายที่ได้วิ่งหลบหนีได้หันมาต่อสู้ คณะเจ้าหน้าที่โดยใช้มีดฟันไปที่แขนขวาของเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่าเป็นแผลยาวบาดเจ็บแล้วหลบหนีไปได้
แต่เจ้าหน้าที่สามารถวิ่งไล่ จับกุมไว้ได้ 1 คน ทราบชื่อภายหลังว่า นายวศิน กากี อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26 หมู่ที่ 4 ตำบลหนองเป็ด อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี พร้อมถุงปุ๋ย บรรจุสิ่งของจำนวน 1 ใบ เมื่อคณะเจ้าหน้าที่ที่เปิดออก พบ ซากเลียงผา จำนวน 14 กิโลกรัม ซากตะกวดจำนวน 1ซาก น้ำผึ้งป่า จำนวน 1 กิโลกรัม มีด จำนวน 1 เล่ม อื่นๆ
นิพนธ์ กล่าวว่า สอบถาม นายวศิน กากี ผู้ต้องหาที่จับตัวได้ให้การว่า ชายทั้ง 3 คน ที่ได้หลบหนีไปนั้น มีนายเริง ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งเป็นคนฟัน เจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่า ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจำหน้าได้ ก่อนนายเริงฯจะฟันเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ ได้พูดขึ้นว่า มีอะไรให้ไปคุยกับผู้ใหญ่อาร็ต ม.4ทราบชือภายหลังว่า นายสุภาพ บุญสุวรรณ ผู้ใหญ่บ้านทุ่งนาหมู่ที่ 4 ตำบลหนองเป็ด อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี และผู้ต้องหาที่หลบหนีไปได้อีกชื่อนายรุณ ไม่ทราบนามสกุล มีอาวุธปืนซองยาวจำนวน 1 กระบอกติดตัวหลบหนีไปด้วย และนายแดง ไม่ทราบนามสกุล พร้อมมีอาวุธลูกซองยาว จำนวนหนึ่งกระบอกหลบหนีติดตัวไปด้วยทั้งหมด เป็นราษฎรบ้านเกาะบุก ตำบลหนองเป็ด อำเภอศรีสวัสดิ์จังหวัดกาญจนบุรี
คณะเจ้าหน้าที่เห็นว่าการกระทำของนายวศิน กากี ผู้ต้องหากับพวกอีก 3 คนที่หลบหนีไปได้นั้น มีความผิดฐานร่วมกัน กระทำผิดตามพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2562 มาตรา 12 ห้ามมิให้ผู้ใด ล่าสัตว์ป่าสงวน(เลียงผา) ระวังโทษจำคุก ตั้งแต่ 3 ปี ถึง 15 ปี หรือปรับ ตั้งแต่ 3แสนบาท ถึงหนึ่งล้านห้าแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง(ตะกวด)ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท
มาตรา 17 ครอบครองซากสัตว์ป่าสงวน และสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาต ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสน บาท
มาตรา 54 วรรคหนึ่ง ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ห้ามมิให้ผู้ใดล่าสัตว์ป่า โดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 5แสนบาท บาท
มาตรา 55 (5) เก็บหา นำออกไป หรือกระทำด้วยประการใดๆให้เป็นอันตราย แก่ทรัพยากรธรรมชาติอื่น(น้ำผึ้ง) ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 53วรรคหนึ่ง ห้ามผู้ใด เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษ จำคุก ไม่เกิน 3 เดือนหรือปรับไม่เกิน 30,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
สำหรับนายเริง ไม่ทราบนามสกุล ที่ฟันเจ้าหน้าที่จนบาดเจ็บ และหลบหนีไปได้นั้น มีความผิดฐานฐานทำร้ายเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎอาญา มาตรา 296 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน6 พันบาท
และฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท
คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ทำ บันทึกเรื่องราวนำส่งพนักงานสอบสวนสภ. ด่านแม่แฉลบ อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี ดำเนินคดี นายวศิน กากี ผู้ต้องหา และทำการสืบสวนสอบสวนหาตัว นายเริง ฯนายรุณฯนายแดงฯ มาดำเนินคดีตามกฎหมายมาลงโทษต่อไป
นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ยังเปิดเผยต่อว่า ผู้ต้องหา 3 คน ที่หลบหนีไป ทางตำรวจไม่น่าจะสืบหาตัวผู้ต้องหาที่หลืออยู่ไม่ยาก เพราะผู้ต้องหา กับชาย 3 คน เป็นราษฏรบ้านเกาะบุก ตำบลหนองเป็ด อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี รู้จักกันหมด แถมยังอ้างว่ารู้จักและให้ไปคุยกับผู้ใหญ่บ้านอีกด้วย และเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าก็จำหน้าได้ ชี้ตัวได้ หวังว่าทางตำรวจสภ.ด่านแม่แฉลบ จะจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือได้หมดในไม่ช้านี้