ทบ.-กองทัพภาค 2 เจาะแอ่งน้ำใต้ดิน “ภูทอกตอนบน-ล่าง” ช่วยชาวอีสาน จ่ออีก 2,831 บ่อ แจกกว่า 8.3 ล้านลิตร
น้ำบาดาล- เมื่อวันที่ 19 เมษายน นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล (ทบ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า ได้หารือกับ พล.ท.ธัญญา เกียรติสาร แม่ทัพภาคที่ 2 ในการนำน้ำบาดาลขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งน้ำกิน น้ำใช้ และน้ำเพื่อการเกษตร โดยขณะนี้ ปริมาณน้ำบาดาล ที่ยังเหลือกักเก็บอยู่ใต้ดินและสามารถนำขึ้นมาใช้ประโยชน์ได้อีกถึง 30,000 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อปี โดยพื้นที่ที่มีแหล่งน้ำบาดาลกักเก็บมากที่สุด ได้แก่ ภาคกลาง คือ แอ่งเจ้าพระยาตอนบนและตอนล่าง มีปริมาณน้ำสำรอง 412,000 ล้าน ลบ.ม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คือ แอ่งอุดรธานี-สกลนครหรือแหล่งภูทอกตอนบน มีปริมาณน้ำสำรอง 13,500 ล้าน ลบ.ม. และแอ่งนครราชสีมา-อุบลราชธานี หรือ แหล่งภูทอกตอนล่าง มีปริมาณน้ำสำรอง 9,500 ล้าน ลบ.ม.
“ปริมาณน้ำบาดาลสำรองดังกล่าว สามารถจะพัฒนาขึ้นมาใช้ประโยชน์ให้กับประชาชนในพื้นที่ที่ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคได้ โดยใช้วิธีส่งน้ำบาดาลระยะไกลขนาดใหญ่ กระจายน้ำให้กับประชาชน หรือหากพื้นที่ใดมีปริมาณน้ำบาดาลน้อย จะเจาะน้ำบาดาลเป็นลักษณะของกลุ่มบ่อที่มีบ่อน้ำบาดาลหลายๆ บ่อรวมกัน เพื่อสูบน้ำจากบ่อน้ำบาดาลด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ขึ้นไปกักเก็บบนหอถังเก็บน้ำขนาดใหญ่ และกระจายน้ำส่งไปตามท่อเมนโดยอาศัยแรงโน้มถ่วงของโลก เพื่อให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ที่ขาดแคลนแหล่งน้ำ” นายศักดิ์ดา กล่าว
อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวว่า ส่วนความคืบหน้าในการช่วยเหลือภัยแล้ง ได้เจาะบ่อน้ำบาดาลให้แก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน รวมทั้งสิ้น 2,268 แห่ง หรือ 2,831 บ่อ ขณะนี้ดำเนินการเจาะเสร็จสิ้นแล้ว 1,347 บ่อ คิดเป็นร้อยละ 47.58 คงเหลืออีก 1,484 บ่อ คิดเป็นร้อยละ 52.42 และแจกจ่ายน้ำบาดาลสะอาดให้แก่ประชาชนในพื้นที่ขาดแคลนน้ำไปแล้ว 8.3 ล้านลิตร แบ่งเป็น น้ำดื่มสะอาด 1.5 ล้านลิตร และน้ำเพื่อการอุปโภค 6.8 ล้านลิตร
“ประชาชนที่ประสบปัญหาภัยแล้งสามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือจากกรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้ ผ่านระบบโทรศัพท์หมายเลข 0-2666-7000 กด 1 หรือ 09-5949-7000 ตั้งแต่เวลา 08.30-20.30 น. ทุกวันจนกว่าจะสิ้นสุดสถานการณ์ภัยแล้ง หรือแจ้งผ่านระบบขอความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งออนไลน์ทาง htpp://1310.dgr.go.th” นายศักดิ์ดา กล่าว
