ห่วงเลื่อน ‘เกณฑ์ทหาร’ ปี’63 ทำคน ‘หนีทหาร’ ไม่รู้ตัว
สถานการณ์โควิด-19 ระบาด ทำให้ปฏิทินการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการกองประจำการ ประจำปี 2563 จากเดิมอยู่ระหว่างวันที่ 1-12 เมษายนของทุกปี เป็นอันต้องเลื่อนเพื่อปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคระบาด ซึ่งภายหลังรัฐบาลสามารถควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ให้ต่ำได้แล้วนั้น จึงมีการประกาศปฏิทินใหม่เป็นที่เรียบร้อย
ทั้งนี้ กองการสัสดี กองทัพบก แจ้งวันตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการกองประจำการ ประจำปี 2563 ใหม่ ระหว่างวันที่ 23 กรกฎาคม ถึง 31 สิงหาคม ดังนี้ กำหนดให้ระหว่างวันที่ 26 มิถุนายนถึง 22 กรกฎาคม เป็นการแก้ไขหมายเรียกฯ (แบบ สด.39) การยื่นขอผ่อนผัน และการสละสิทธิผ่อนผัน ณ หน่วยสัสดีเขต/อำเภอ ที่เป็นภูมิลำเนาทหาร, กำหนดให้ระหว่างวันที่ 29 มิถุนายนถึง 22 กรกฎาคม ผู้ร้องขอสมัครใจเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ดำเนินกรรมวิธี ณ หน่วยสัสดีเขต/อำเภอ ที่เป็นภูมิลำเนาทหาร และทำการตรวจเลือกฯ ในระหว่างวันที่ 23-25 กรกฎาคม ณ สถานที่ทำการตรวจเลือกกลาง ของจังหวัด/คณะตรวจเลือก
กำหนดให้ระหว่างวันที่ 26 กรกฎาคมถึง 23 สิงหาคม เป็นการตรวจเลือกฯปกติ โดยใช้สถานที่ทำการตรวจเลือกฯของแต่ละเขต/อำเภอ ตามที่ผู้อำนวยการเขต/นายอำเภอกำหนดไว้ ในหมายเรียกฯ (แบบ สด.35) และกำหนดให้ผู้ที่ขอผ่อนผันทำการตรวจเลือกฯ โดยเริ่มทำการตรวจเลือกต่อจากวันสุดท้ายของการตรวจเลือกฯ ปกติในแต่ละคณะตรวจเลือกฯ ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าว จะต้องไม่เกิน วันที่ 31 สิงหาคม 2563
จันทร์จิรา บุญประเสริฐ ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อสิทธิและความเป็นธรรมทางเพศ เอ็นจีโอที่ทำงานช่วยเหลือและแจ้งสิทธิแก่กลุ่มกะเทยและสาวประเภทสอง เพื่อให้ได้การรับรองสถานะ “เพศสภาพไม่ตรงกับเพศกำเนิด” และไม่ต้องไปเกณฑ์ทหาร เปิดเผยว่า ประกาศดังกล่าวดิฉันไม่ห่วงเรื่องการเตรียมตัวของกลุ่มกะเทย และสาวประเภทสองที่จะไปเกณฑ์ทหาร เพราะประกาศให้เตรียมตัวและขอใบรับรองแพทย์มาระดับหนึ่งแล้ว ซึ่งแม้วันตรวจเลือกจะเลื่อนออกมาจากเดิมหลายเดือน แต่เอกสารรับรองเพศที่ขอมา กองการสัสดียืนยันว่ายังสามารถใช้ได้
แต่ที่ห่วงปีนี้คือ การเลื่อนวันเกณฑ์ทหารใหม่ แล้วให้แต่ละพื้นที่ไปกำหนดกันเองตามห้วงเวลาที่กำหนด จากเดิมที่ส่วนกลางกำหนดไว้ชัดเจน อีกทั้งแยกวันยื่นขอผ่อนผันและขอสละสิทธิ และวันตรวจเลือกฯ ออกจากกัน จากเดิมทำในวันเดียวกัน เธอมองว่า ต้องอาศัยการประชาสัมพันธ์ที่ทั่วถึงและต่อเนื่อง แต่ที่ผ่านมามักมีปัญหาเรื่องนี้ จึงเกรงว่าอาจทำให้น้องๆ บางคนไม่รู้
“ในสถานการณ์โควิดระบาด หลายคนเข้าไม่ถึงข้อมูลข่าวสาร บางคนอาจคิดว่าเกณฑ์ทหารปีนี้คงไม่มีแล้ว เพราะโควิด จึงเกรงว่าจะมีคนตกหล่นเรื่องนี้มาก และเป็นการหนีทหารโดยไม่รู้ตัว ฉะนั้นจึงอยากฝากให้กองการสัสดีและพื้นที่ต่างๆ ได้ประชาสัมพันธ์ให้ชัดเจนตั้งแต่เนิ่นๆ ต่อไป” จันทร์จิรากล่าวทิ้งท้าย
เธอและเพื่อนๆ กลุ่มเอ็นจีโอทำงานและเตรียมตัวเรื่องนี้มาเป็นปีนี้ สามารถเข้าไปช่วยจัดการปัญหาและช่วยเหลือได้ แต่ด้วยโควิด-19 ทำให้สถานการณ์การทำงานต้องเปลี่ยนไป เป็นความท้าทายกลุ่มเอ็นจีโอ เพื่อคนหลากหลายทางเพศ ที่ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ตั้งใจและอยากทำให้ดีที่สุด
