กลุ่มเฝ้าระวังสุรายื่น จม.”อนุทิน” ต้านขายเหล้าออนไลน์-ลบมาตรา 32

กลุ่มเฝ้าระวังสุรายื่น จม.”อนุทิน” ต้านขายเหล้าออนไลน์-ลบมาตรา 32

เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ สธ. รับจดหมายเปิดผนึกจาก นายคำรณ ชูเดชา ผู้ประสานงานเครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา (Alcohol Watch) พร้อมด้วย นายธีรภัทร์ คหะวงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ และเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ จำนวน 15 คน เรียกร้องให้ออกประกาศกำหนดห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในลักษณะออนไลน์ หรือ เดลิเวอรี ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 มาตรา 30 (6) เนื่องจากถือเป็นการมอมเมาเด็ก เยาวชน ประชาชน ให้เข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ง่าย ไร้ข้อจำกัดเรื่องอายุ และเวลา มุ่งหวังเพียงรายได้ทางธุรกิจ ไม่สนกฎหมาย ทั้งนี้เครือข่ายฯ ได้นำหลักฐานมามอบให้ สธ.ด้วย

​นายธีรภัทร์ กล่าวว่า ช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ทุกภาคส่วนช่วยกันป้องกันแก้ไขปัญหาอย่างเต็มกำลัง ทุกจังหวัดได้ออกคำสั่งห้ามไม่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั่วประเทศ เพื่อยับยั้งป้องกัน ลดความรุนแรง รวมทั้งลดแหล่งมั่วสุมของประชาชนเพื่อลดการติดเชื้อการแพร่ระบาด แต่เหตุใดช่วงเวลาวิกฤตนี้ กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จึงหาช่องทางหลบเลี่ยงกฎหมาย ไม่ให้ความร่วมมือ ทำการตลาดขายเหล้าเบียร์ในรูปแบบออนไลน์ แฝงโฆษณาทั้งทางตรงและทางอ้อม

นายธีรภัทร์ กล่าวว่า จากการเก็บข้อมูลช่วงโควิด-19 พบว่า ธุรกิจเหล้าเบียร์แทบทุกค่ายรุกทำการตลาดส่งเสริมการขายอย่างหนัก ระบาดตามช่องทางเพจออนไลน์ เดลิเวอร์รีส่งตรงถึงหน้าบ้านในช่วงโควิด–19 แม้จะทำเหมือนมีการตรวจสอบอายุผู้ซื้อ หมายเลขโทรศัพท์

Advertisement

“แต่ในความเป็นจริง ผู้ซื้อที่อาจจะเป็นเด็กสามารถใช้เบอร์โทรปลอมของคนที่อายุมากหน่อย ก็ซื้อเบียร์มาดื่มได้แล้ว จุดนี้น่าเป็นห่วงอย่างมาก เพราะเด็กและเยาวชนจะเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้มากขึ้นแน่นอน ก่อนหน้าโควิด-19 มา เราก็พบว่าร้านเหล้าผับบาร์หลายแห่งเริ่มทำระบบสมาชิก ให้นักศึกษาสามารถสั่งเหล้าเบียร์ส่งถึงหอพักกันบ้างแล้ว ปัจจุบันมีเพจ เว็บไซต์ต่างๆ ที่ทั้งโฆษณาและขายเหล้าเบียร์ออนไลน์มากมาย อาจเข้าข่ายละเมิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ในหลายประเด็น เช่น ขายนอกเหนือเวลาที่กฎหมายกำหนด เพราะจ่ายเงิน รับส่งสินค้า เป็นคนละช่วงเวลา ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดเวลาห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2558 หรือ ไม่สามารถตรวจสอบอายุของผู้ซื้อได้ตามมาตรา 29 (1) ห้ามขายให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี อีกทั้งพบว่า มีการแสดงภาพขวดหรือบรรจุภัณฑ์อย่างโจ่งแจ้งผิดตามมาตรา 32 ซึ่งเป็นการพยายามตีความหลบเลี่ยง ท้าทายกฎหมาย เพื่อให้ได้ขายสินค้าทำกำไรอย่างน่าละอายในช่วงวิกฤต เพื่อหยุดปัญหาดังกล่าวจำเป็นต้องมีกฎหมายลูกมาควบคุมให้ชัดเจนไปเลย” นายธีรภัทร์ กล่าว

​ด้านนายคำรณ กล่าวว่า เพื่อเป็นการป้องกันเด็กเยาวชนและประชาชนจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครือข่ายฯ แสดงจุดยืนและมีข้อเสนอ 1.ขอให้ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับบรรดาเพจ เว็บไซต์ต่างๆ ที่มีการโฆษณา ทำการตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทางออนไลน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม 2.เพื่อป้องกันการตีความเข้าข้างตัวเองเพื่อผลประโยชน์ในทางธุรกิจ ขอให้เร่งออกมาตรการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยวิธีหรือลักษณะการขายแบบออนไลน์ เป็นประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี อาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ มาตรา 30 (6) 3.คัดค้านความพยายามครั้งล่าสุดของสมาพันธ์ผู้ประกอบการผลิตและจำหน่ายสุราแห่งประเทศไทยที่กำลังล่ารายชื่อกดดันให้มีการยกเลิกมาตรา 32 พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ เพียงเพื่อประโยชน์ทางธุรกิจ และเรียกร้องให้กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทบทวนตัวเองว่าที่ผ่านมาได้รับผิดชอบสังคมในการลดผลกระทบจากนำเมาอย่างไร และได้ทำการตลาดภายใต้กรอบของกฎหมายอย่างถูกต้องแล้วหรือไม่ และ 4.เครือข่ายฯ พร้อมที่จะเดินหน้าอย่างเต็มที่ในการเฝ้าระวัง การกระทำที่ผิดกฎหมายของธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในทุกรูปแบบ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้บรรลุตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image