“วรวัจน์” ชี้รื้ออาคาร “บอมเบย์ เบอร์มา” ส่อตั้งงบเท็จ เขียนซ่อมแต่กลับรื้อถอน-ซื้อไม้ปลอม ด้านรองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ตั้งกก.สอบข้อเท็จจริง
เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แพร่ และ กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. … ในสัดส่วนพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการรื้อถอนอาคารบอมเบย์ เบอร์มา ที่ระบุว่าเป็นการซ่อมแซมเพื่อปรับปรุงนั้น ว่า จะต้องมีการดำเนินคดีแน่นอน เพราะจากการตรวจสอบเอกสารรายละเอียดของโครงการดังกล่าว มีการลงนามโครงการโดยผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เพื่อดำเนินการในพื้นที่สำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 (แพร่) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ตั้งเรื่องขึ้นมา
“ดังนั้นจะต้องสอบตั้งแต่ตัวเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานแห่งชาติฯ ที่นายอิศเรศ สิทธิโรจนกุล ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 (แพร่) ระบุว่า เจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานแห่งชาติฯ มาออกแบบอาคารใหม่ให้ รวมทั้งการตั้งงบประมาณที่อาจเป็นเท็จผ่านเข้ามาในชั้นกรรมาธิการงบประมาณ เพราะการของบประมาณดังกล่าว เขียนโครงการเป็นซ่อมแซมและปรับปรุง โดยงบอาคาร 4 ล้านบาท เป็นงบสร้างห้องน้ำใหม่กว่าล้านบาท แต่แท้ที่จริงแล้ว กลับเป็นการรื้อถอนและใช้งบประมาณซื้อไม้ปลอม อย่างไม้เชอร่า และเหล็กชุบสังกะสี มา สร้างเป็นอาคาร 100 ปี แทน ส่วนไม้สักทองของเดิม สุดท้ายจะนำไปที่ใดไม่มีใครทราบ เพราะไม่ได้ปรากฏอยู่ในบันทึกแต่แรก” นายวรวัจน์ กล่าว
นอกจากนี้ นายวรวัจน์ กล่าวว่า ส่วนการที่รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ รับปากว่าจะจัดหางบมาซ่อมแซมให้นั้น จะนำมาจากไหน เพราะงบประมาณปี 2563 ใช้ไปแล้ว จำนวน 4,560,000 บาท จะนำมาใช้ไม่ได้ เพราะในรายละเอียดเป็นการซื้อวัสดุใหม่ ไม่ใช่การซ่อมแซม จึงไม่ตรงวัตถุประสงค์ ส่วนงบประมาณปี 2564 ตั้งไปแล้ว ดังนั้น จึงไม่มีรายการนี้ เพราะเหตุการณ์การรื้อถอนที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องปัจจุบันทันด่วน ตั้งงบไม่ทัน ต้องรอดูว่ากรมอุทยานแห่งชาติฯ จะว่าอย่างไร
นายวรวัจน์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากกรมอุทยานแห่งชาติฯ ยังมีหน่วยงานอื่น ที่จะต้องร่วมรับผิดชอบด้วย ทั้ง ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด ที่ร่วมจัดทำเอกสารที่น่าจะเป็นเท็จ ทำโครงการทำลายอาคารโบราณสถานที่มีสถาปัตยกรรมร่วมไทย-อังกฤษ ทำลาย แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ไม่เป็นไปเพื่อการท่องเที่ยวแต่อย่างใด เป็นต้น
ด้านนายสมหวัง เรืองนิวัติศัย รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ กล่าวว่า ขณะนี้ กรมอุทยานแห่งชาติฯ จะนำงบเหลือจ่ายของปีงบประมาณปี 2563 มาบูรณะซ่อมแซม ตั้งงบฯ ไว้ประมาณ 7-8 ล้านบาท โดยมีกรมศิลปากรมาออกแบบร่วมกับชุมชนโดยจะนำภาพถ่ายเก่าๆ และเอกสารที่เกี่ยวกับอาคารดังกล่าวมาออกแบบเพื่อฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ ขณะเดียวกัน กรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องการรื้อถอนอาคารดังกล่าว มีนายธัญนรินทร์ ณ นคร ผู้อำนวยสำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช เป็นประธาน
“ขณะที่ทางจังหวัดแพร่เองก็มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรจสอบข้อเท็จจริงเช่นกัน” นายสมหวัง กล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าโครงการดังกล่าวอาจจะเข้าข่ายเขียนงบประมาณเท็จจริงมานำเสนอคณะกรรมาธิการงบประมาณ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ กล่าวว่า ก็ต้องไปตรวจสอบ ส่วนตนไม่ทราบเรื่อง
