กทม.นำร่องเปิดพื้นที่ค้า 3 จุด พยุงเศรษฐกิจชุมชน

กทม.นำร่องเปิดพื้นที่ค้า 3 จุด พยุงเศรษฐกิจชุมชน

เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยของกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 4/2563 ซึ่งมี นายวัลลภ สุวรรณดี ประธานที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. นายสมภาคย์ สุขอนันต์ รองปลัด กทม.นายศุภกฤต บุญขันธ์ ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ พร้อมด้วยตัวแทนกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงคมนาคม สำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมหารือ ที่ศาลาว่าการ กทม.

นายสกลธี เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากคณะกรรมาธิการการแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำของวุฒิสภา ได้รายงานผลการศึกษาเรื่องข้อเสนอเชิงนโยบายการบริหารจัดการหาบเร่-แผงลอย ในกรุงเทพมหานคร เพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานราก ชีวิต และชุมชน โดยในวันนี้ กทม.ได้ประชุมหารือเพื่อศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของรายงานการพิจารณาศึกษาดังกล่าว ว่า กทม.จะสามารถดำเนินการในสิ่งใดได้บ้าง ซึ่งการดำเนินงานจะแบ่งเป็น ระยะเร่งด่วน ระยะกลาง และระยะยาว

“ในระยะเร่งด่วน คณะกรรมการรักษาความเป็นระเบียบฯ ได้เห็นชอบให้พื้นที่ที่มีความเหมาะสม เป็นพื้นที่ทำการค้านำร่อง จำนวน 3 จุด ประกอบด้วย 1.บริเวณทางเท้าถนนพระราม 2 ซอย 69 เขตบางขุนเทียน 2.บริเวณทางเท้าซอยอารีย์ 1 เขตพญาไท และ 3.บริเวณที่ว่างซอยอ่อนนุช 70 เขตประเวศ ซึ่งขณะนี้กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้พิจารณาเห็นชอบตามกฎหมายแล้ว โดยจะประกาศเป็นพื้นที่ทำการค้าในเร็วๆ นี้ ส่วนสำนักงานเขตจะดูแลเรื่องผู้ค้าที่จะทำการค้าขาย ซึ่งอาจจะยื่นความประสงค์เข้ามาหรือทำการจับสลาก” รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าว

Advertisement

นอกจากนี้ นายสกลธี กล่าวว่า เรื่องเร่งด่วนต่อมาคือ จุดผ่อนผันเดิมที่มีผู้ค้า 171 จุด โดยสำนักงานเขตได้ทำการสำรวจว่า จุดไหนมีศักยภาพควรจะทำต่อ หรือจุดไหนควรจะยกเลิก จากการสำรวจพบว่ามี 128 จุด ที่มีศักยภาพควรดำเนินการต่อ ที่เหลืออีก 43 จุด ควรยกเลิก เนื่องจากผู้ค้ามีจำนวนน้อย อีกทั้งลักษณะทางกายภาพไม่เอื้ออำนวยขัดกับประกาศฉบับใหม่ที่ กทม.ออกเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2563 นอกจากนี้ กลุ่มผู้ค้าได้เรียกร้องขอให้กำหนดพื้นที่ทำการค้า 26 จุด ผ่านหน่วยงานรัฐบาล ซึ่งสำนักเทศกิจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบส่วนใหญ่จะขัดกับประกาศ โดยมีพื้นที่เพียง 3 แห่ง ที่มีความเหมาะสม ได้แก่ ตลาดบางคอแหลม เขตบางคอแหลม ซอยสุขุมวิท 18 เขตคลองเตย และถนนกำแพงเพชร 4 เขตจตุจักร ซึ่งจะประสานการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ส่วนระยะกลาง จะหาสถานที่เหมาะสม เพื่อทำการค้า โดยการสร้างตลาดสร้างพื้นที่ทำการค้าใหม่ ที่เรียกว่า Hawker center หรือจุดค้าขายใหญ่ๆ บริเวณออฟฟิศย่านสีลม สาทร สุขุมวิท แต่คงเป็นไปได้ยาก เพราะที่ดินมีราคาแพง

Advertisement

“อย่างไรก็ตาม วันนี้ได้เชิญหน่วยงานภายนอกเข้าร่วมประชุม อาทิ กระทรวงการคลัง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงคมนาคม สำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยจะตั้งคณะกรรมการ 1 ชุดประกอบด้วยหน่วยงานดังกล่าว ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินในกรุงเทพฯ จะร่วมกันจัดหาที่ดินที่ว่าง เพื่อทำเป็นจุดค้าขาย โดย กทม.จะเป็นคนกลางในการทำบันทึกข้อตกลง (เอ็มโอยู) เพื่อทำเป็นจุดผ่อนผันและนำผู้ค้าเข้ามาทำการค้าขายตามข้อตกลงร่วมกัน” นายสกลธี กล่าวและว่า อีกจุดหนึ่งที่ยื่นหนังสือไปคือ การท่าเรือแห่งประเทศไทย เขตคลองเตย ซึ่งมีพื้นที่อยู่หลายไร่ สามารถรองรับผู้ค้าได้เป็นจำนวนมาก แต่ยังไม่ได้รับการตอบกลับมา ซึ่งคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาชุดนี้จะช่วยประสานการทำงานให้เร็วขึ้น

รองผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า สำหรับระยะยาว จะพิจารณาเพื่อหาจุดทำการค้าให้ดีขึ้น เป็นโซนหรือจุดที่ทำการค้าพิเศษ ซึ่งในประกาศฉบับนี้ จะมีคุณสมบัติผู้ค้าอยู่ 2 ประเภท คือ ผู้ค้าที่ฐานะยากจน และต้องมีบัตรสวัสดิการของรัฐ โดยที่ไม่ต้องเสียภาษีเพราะมีรายได้น้อย ในส่วนจุดที่ทำการค้าพิเศษ เช่น ถนนข้าวสาร ย่านเยาวราช จะยกเว้นคุณสมบัติดังกล่าว โดยจะพิจารณาจากศักยภาพของผู้ค้าว่า จะสามารถพัฒนาให้จุดทำการค้าเจริญเติบโตขึ้นอีกได้หรือไม่ นอกจากนี้ ยังดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์ เช่น ถนนข้าวสาร ท่าน้ำพรานนก ฯลฯ ให้มีความเป็นระเบียบ เรียบร้อย สวยงาม เพื่อให้ประชาชนเข้ามาจับจ่ายสินค้ามากขึ้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image