กรมวิทย์ฯ แนะประชาชนโหลดแอพพ์ฯ ตรวจสอบ “เห็ดพิษ” หาข้อมูลก่อนบริโภค

กรมวิทย์ฯ แนะประชาชนโหลดแอพพ์ฯ ตรวจสอบ “เห็ดพิษ” หาข้อมูลก่อนบริโภค

เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ในช่วงฤดูฝนระหว่างเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม ซึ่งเป็นฤดูเห็ดหลาก ชาวบ้านนิยมเข้าไปเก็บเห็ดป่าเพื่อนำมาประกอบอาหารรับประทาน และขายในตลาดท้องถิ่น ส่งผลให้สถานการณ์อาหารเป็นพิษจากการรับประทานเห็ดพิษในช่วงระยะเวลาดังกล่าว มีรายงานผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตสูงในแต่ละปี โดยในปี 2563 (มกราคม-มิถุนายน) มีรายงานผู้ป่วยที่ได้รับพิษจาก เห็ดพิษที่มาจากป่าธรรมชาติมากถึง 275 ราย ตัวอย่างเห็ดพิษจากหลากหลายแห่ง ถูกส่งไปตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สธ.ได้แก่ บุรีรัมย์ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ อุดรธานี ระยอง และตรัง

“โดย จ.อุบลราชธานี พบผู้ป่วยสะสมสูงสุด เห็ดที่มีรายงานการเกิดเหตุ ได้แก่ เห็ดหมวกจีน เห็ดคันร่มพิษ เห็ดก้อนฝุ่น และ เห็ดระงาก ซึ่งเห็ดพิษเหล่านี้มีลักษณะรูปร่างหน้าตาหรือเรียกว่าลักษณะทางสัณฐานวิทยาที่คล้ายกับเห็ดรับประทานได้ เช่น เห็ดหมวกจีนและเห็ดคันร่มพิษคล้ายกับเห็ดปลวก (เห็ดโคน) เห็ดระงากพิษคล้ายกับเห็ดระโงกขาวกินได้ และเห็ดก้อนฝุ่นคล้ายกับเห็ดเผาะ ซึ่งอาจทำให้ชาวบ้านเข้าใจผิด และเก็บมารับประทานจึงได้รับสารพิษเข้าไป” นพ.โอภาส กล่าว

Advertisement

นพ.โอภาส กล่าวว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้เล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าว จึงได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ในการจัดทำฐานข้อมูลและพัฒนาแอพพลิเคชั่น Mushroom Image Matching ชื่อว่า “คัดแยกเห็ดไทย” เพื่อใช้ตรวจสอบเห็ดมีพิษและเห็ดที่รับประทานได้ในประเทศไทย โดยรวบรวมภาพถ่ายของเห็ดทั้งเห็ดพิษ และเห็ดที่รับประทาน เพื่อใช้ประมวลผลด้วยโปรแกรมจดจำรูปภาพและแสดงผลชนิดของเห็ดและร้อยละของความถูกต้อง โดยโปรแกรมแอพพ์ฯ ในเวอร์ชั่น V1.2R3 ปัจจุบัน มีฐานข้อมูลรูปภาพเห็ดพิษที่พบบ่อยเพื่อประมวลผล ได้แก่ กลุ่มเห็ดระงากพิษ กลุ่มเห็ดหมวกจีน เห็ดคันร่มพิษ เห็ดหัวกรวดครีบเขียวพิษ เห็ดถ่านเลือด เป็นต้น

“นอกจากข้อมูลภาพถ่ายแล้ว ในฐานข้อมูลได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมของเห็ดแต่ละชนิด เช่น ชื่อพื้นเมือง พิษที่พบในเห็ด อาการที่แสดงหลังจากได้รับสารพิษดังกล่าว เป็นต้น” นพ.โอภาส กล่าวและว่า สำหรับการใช้งานโปรแกรมดังกล่าว ต้องทำการดาวน์โหลดโปรแกรมมาติดตั้งไว้บนโทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟนแบบ Android เท่านั้น โดยเข้าถึงแอพพ์ฯได้ 2 ช่องทาง คือ 1.เลือกจาก Play store ค้นหาคำว่า “คัดแยกเห็ดไทย” และ 2.สแกน QR Code จากนั้นทำการลงทะเบียนและใช้งานโปรแกรมด้วยการเปิดกล้องและสแกนดอกเห็ดที่ต้องการทราบชนิด โปรแกรมจะเริ่มประมวลผลแบบ real time และจะหยุดเมื่อความถูกต้องของชนิดเท่ากับร้อยละ 95 หรือเราสามารถกดปุ่มเพื่อหยุดได้

Advertisement

อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์ฯ กล่าวว่า นอกจากนี้ โปรแกรมนี้ยังสามารถตรวจสอบชนิดของเห็ดจากภาพถ่ายที่เก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม การใช้แอพพ์ฯ “คัดแยกเห็ดไทย” เป็นเพียงเครื่องมือในการคัดกรองเบื้องต้นซึ่งผู้ใช้สามารถใช้ประกอบการตัดสินใจในการรับประทานเท่านั้น เพราะแอพพ์ฯ ดังกล่าวยังไม่สามารถแปรผลได้ 100% ดังนั้น การรับประทานเห็ดไม่ควรรับประทานเห็ดที่ไม่รู้จัก และที่สำคัญไม่รับประทานเห็ดกับสุรา หากมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรืออาการทางระบบประสาทให้หยุดรับประทานทันที แล้วรีบไปโรงพยาบาลในพื้นที่พร้อมทั้งนำตัวอย่างเห็ดสด (ถ้ามี) ที่เหลือจากการปรุงอาหารที่รับประทานไปด้วย เพื่อส่งตรวจพิสูจน์สารพิษและสายพันธุ์เห็ดพิษ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image