“ไทย” ปท.แรกร่วมอนามัยโลก ถอดบทเรียน “ป้องกันโควิด-19”

ไทย ปท.แรกร่วมอนามัยโลก ถอดบทเรียน “ป้องกันโควิด-19”

เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ที่ กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ประเทศไทยเข้าร่วมการถอดบทเรียนการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 โดยทีมจากองค์การอนามัยโลก(WHO) องค์กรระหว่างประเทศ และสถาบันในประเทศ ระหว่างวันที่ 20-24 กรกฎาคม ที่ กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีผู้แทนและผู้ปฏิบัติงานจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น หน่วยงานของ สธ. กระทรวงการต่างประเทศ ผู้แทนจากองค์การเภสัชกรรม(อภ.) โรงพยาบาล(รพ.)รัฐและเอกชน มหาวิทยาลัย สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) ศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐ ด้านสาธารณสุข สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มูลนิธิรักษ์ไทย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย และอีกหลายหน่วยงาน เข้าร่วมกว่า 100 คน

“เสาหลักสำคัญต่อการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 ทั้ง 9 หลัก ได้แก่ 1.การประสานงาน การวางแผน การติดตามและประเมินผลในระดับประเทศ 2.การสื่อสารความเสี่ยงและการมีส่วนร่วมของชุมชน 3.การเฝ้าระวัง การสอบสวนโรค และการติดตามผู้สัมผัส 4.ช่องทางเข้าออกประเทศ 5.ระบบห้องปฏิบัติการแห่งชาติ 6.การป้องกันและควบคุมการติดเชื้อ 7.การจัดการผู้ป่วย และการแบ่งปันความรู้ นวัตกรรมและการวิจัย 8.การสนับสนุนการปฏิบัติงานและการขนส่งในห่วงโซ่อุปทาน และการจัดการกำลังคน และ 9.การบำรุงรักษาด้านบริการสุขภาพที่จำเป็นระหว่างการระบาดของโรคโควิด-19 โดยประเทศไทยเป็นประเทศแรกของโลกที่เข้าร่วมการถอดบทเรียนการดำเนินงานจัดการปัญหาโรคโควิด-19 โดยใช้เครื่องมือที่องค์การอนามัยโลกได้พัฒนาขึ้นมาใหม่” นพ.ธนรักษ์

นพ.สมบัติ แทนประเสริฐสุข นายแพทย์ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การที่ประเทศไทยเข้าร่วมการถอดบทเรียนการดำเนินงานภายใต้การระบาดของโรคโควิด-19 ในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของประเทศและเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนางานป้องกันควบคุมโรค พัฒนาระบบบริหารจัดการภายใต้ภาวะฉุกเฉิน รวมถึงพัฒนากระบวนการทำงานของหน่วยงานต่างๆ ที่เกิดขึ้นให้ดียิ่งขึ้น เพื่อก้าวไปสู่ความมั่นคงด้านสุขภาพของประเทศไทย พร้อมรับมือกับการระบาดระลอกสองที่อาจจะเกิดขึ้น ทั้งนี้ แม้ว่าสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ของประเทศไทยจะไม่พบการติดเชื้อภายในประเทศมาหลายสัปดาห์ แต่ยังมีการรายงานการพบผู้ป่วยติดเชื้อที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศในสถานกักกันที่สนับสนุนโดยรัฐบาล ดังนั้น ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนจึงมีความจำเป็นในการป้องกันโรค ซึ่งสอดคล้องกับผลการประชุมเตรียมการถอดบทเรียน ซึ่งมีผู้เข้าร่วมจากหลายภาคส่วน เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งจัดโดยสำนักงานความร่วมมือระหว่างประเทศ

“ประเทศไทยมีความเข้มแข็งในการป้องกันควบคุมโรคที่ดี เกิดจากความร่วมมือทุกภาคส่วน ทั้งองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรเอกชนสาธารณประโยชน์ ระดับประเทศ ภูมิภาค และระดับพื้นที่ที่ร่วมกันดำเนินการตามมาตรการและให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดี รวมถึงความร่วมมือจากประชาชนทุกคนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยในการสนับสนุนการดำเนินงานตามมาตรการต่างๆ และให้ร่วมมือในการป้องกันตนเองจากการติดเชื้อโควิด-19” นพ.สมบัติ กล่าว

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image