“อนุทิน” ลั่นต้องเฉียบขาด! วิวาทใน รพ.ไม่ยอมความ “อัยการ” หนุนผิดซ้ำซากเอาผิดพ่อแม่ด้วย

“อนุทิน” ลั่นต้องเฉียบขาด! วิวาทใน รพ.ไม่ยอมความ “อัยการ” หนุนผิดซ้ำซากเอาผิดพ่อแม่ด้วย

เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ที่อาคารสภาวิชาชีพ แพทยสภา กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ สธ. ประกาศนโยบายและทิศทางการแก้ไขปัญหาความรุนแรงในสถานพยาบาล ก่อนเปิดการเสวนา “แนวทางแก้ไขปัญหาความรุนแรงในห้องฉุกเฉินสถานพยาบาล” จัดโดย สธ. แพทยสภา และสภาการพยาบาล โดยมีอัยการ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และบุคลากรสาธารณสุข ร่วมรับฟัง ว่า เมื่อเข้ารับตำแหน่ง มองเพียงว่าเป็นหน่วยงานให้การรักษา ปลดทุกข์ประชาชน แต่ไม่เคยคิดในมติที่จะมีคนเข้ามาสร้างความรุนแรงในโรงพยาบาล (รพ.) อย่างไรก็ตาม เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัด ผู้บริหาร รพ.นั้นๆ ต้องหามาตรการ การบริหารจัดการ ผู้บริหาร รพ.ต้องมีวิธีการป้องกัน สร้างความเข้าใจ และประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ส่วนตัวแล้วไม่ยอมให้เรื่องนี้ผ่านไปได้

“ผมไม่ยอมให้เรื่องนี้ผ่านไปได้ ไม่มีการยอมความ เรื่องนี้ต้องดำเนินการอย่างเฉียบขาด ไม่ลดราวาศอก หากเราดำเนินการด้วยความเฉียบขาด ดำเนินคดีจนถึงที่สุดให้เป็นตัวอย่างเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำ หรือหากเกิดขึ้น ก็อยู่ในวิถีที่เราควบคุมได้ และหาวิธีป้องกันความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอย่างเต็มที่ ตราบใดที่ สธ.ยังต้องเผชิญปัญหานี้อยู่ ขอให้มั่นใจว่าเราจะดำเนินการเอาผิดอย่างเข้มข้น ไม่มีการยอมความ” นายอนุทิน กล่าว

ด้าน นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัด สธ.กล่าวว่า เมื่อปี 2562 เกิดเหตุการณ์ทะเลาะกันใน รพ.ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะช่วงสงกรานต์ ซึ่งมีการวิเคราะห์ข้อมูล และมีมาตรการ ให้ผู้บริหาร รพ.ให้ความสำคัญ ดูแล สอดส่องความเรียบร้อย ปรับปรุงมาตรฐานห้องฉุกเฉินตามมาตรการที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กำหนด ซักซ้อมการแยกส่งผู้ป่วย เพิ่มเวรยาม ห้ามผู้ไม่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะคนเมาไม่ให้เข้าพื้นที่ห้องฉุกเฉิน และย้ำว่าทุกกรณีที่เกิดขึ้นจะต้องดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด ทั้งทางอาญา ทางแพ่ง และต้องรายงานทุกเรื่องให้ผู้บริหาร สธ.รับทราบ

Advertisement

ด้าน นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า ปัจจุบันคนประวัติดียังหางานยาก แล้วถ้าคนที่ก่อความรุนแรงในห้องฉุกเฉิน จะมีประวัติอาชญากรรมติดตัวก็จะยิ่งเป็นอุปสรรค์ในการหางานในอนาคต อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีการเสนอให้เพิ่มโทษในกรณีนี้นั้น ไม่ขัดข้อง ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอขึ้นมา แต่ปัจจุบัน คดีบุกรุก รพ. ตีกันใน รพ. ทำทรัพย์สินเสียหาย ทำร้ายบุคลากรทางการแพทย์ ทางอัยการจะบรรยายในสำนวนคดีส่งต่อศาลว่าเป็นพฤติกรรมท้าทาย ไม่เคารพ ไม่เกรงกลัวกฎหมายขอให้ศาลลงโทษสถานหนัก พร้อมส่งมอบหลักฐานภาพถ่ายและคลิปวิดีโอ เพื่อให้ศาลใช้ดุลพินิจในการลงโทษ ซึ่งโทษมีตั้งแต่จำคุก 6 เดือน ถึง 10 ปี เมื่อเราเขียนว่าขอให้ลงโทษสถานหนักก็จะมีการลงโทษในขั้นสูง

นายโกศลวัฒน์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ตามกฎหมายจะมีโทษเกี่ยวกับการทำผิดซ้ำด้วย ดังนั้น หากผู้ก่อเหตุเคยกระทำผิดมาก่อน อัยการก็ฟ้องขอให้มีการเพิ่มโทษ 3 เด้ง คือ โทษที่กระทำครั้งล่าสุด โทษที่เคยทำผิดไว้และอยู่ระหว่างรอลงอาญา และโทษที่ไม่เข็ดหลาบ วันนี้ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ อัยการ ศาล พิจารณาไปในทางเดียวกันว่าการก่อความรุนแรงใน รพ.เป็นพฤติกรรมท้าทายกฎหมาย ไม่ยำเกรงกฎหมายจึงลงโทษสถานหนัก

Advertisement

“ในกรณีที่ผู้ก่อเหตุเป็นเยาวชน ซึ่งปกติการลงโทษจะส่งไปควบคุมพฤติกรรมที่สถานพินิจ ตรงนี้ก็อาจจะส่งไปบำเพ็ญประโยชน์สาธารณะใน รพ.ตำรวจ หรือ รพ.ทหาร เพื่อช่วยเหลือภารงานของ รพ.คู่กับการควบคุมความประพฤติด้วย ขณะที่ผู้ปกครองก็ต้องรับผิดด้วย ทั้งละเมิดและอาญาเพราะมีควบคุม ปล่อยปละ ละเลยบุตร และถ้าเป็นการทำผิดซ้ำพ่อ แม่จะถูกจำคุก 3 เดือน ไม่รอลงอาญา หลังจากที่มีวลีที่มักใช้กับทุกกรณีที่เยาวชนเป็นผู้ก่อเหตุคือ ลูกฉันเป็นคนดี เพราะถ้าดีจริง ต้องรู้จักแยกตัวอออกจากสิ่งไม่ดี” นายโกศลวัฒน์ กล่าว

 

นายเมทนี บูรณศิริ หรือ นีโน่ ดารานักแสดงชื่อดัง กล่าวว่า การตีกันใน รพ.ลึกๆ เป็นการสะท้อนการใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหาของคนไทย ซึ่งสำคัญมากในสังคม ที่ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะสถานพยาบาลเท่านั้น แต่เกิดขึ้นทุกๆ ที่ คิดว่าต้นเหตุคือความยับยั้งชั่งใจ คุณธรรมขาดหายไปจากสังคมไทย วันนี้สังคมไทยเป็นแบบทุนนิยม เน้นวัตถุมากกว่าจิตใจ แม้จะเป็นเมืองพุทธ แต่ความละอายและเกรงกลัวต่อบาปหายไปไหน ในอดีตประชาชนจะมองบุคลากรทางการแพทย์เป็นผู้ที่ให้การช่วยเหลือ คือ พ่อพระ แม่พระ ช่วยชีวิตคน แต่คนที่เข้าไปทำร้ายบุคลากรทางการแพทย์นั้นคิดอะไรอยู่ คนตายตายไปแล้ว หมอไม่สามารถกู้ชีวิตได้ แล้วไปทำร้ายหมอทำไม ดังนั้นตนคิดว่าการแก้ไขความรุนแรงในสังคมต้องถูกผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติ และการปลูกฝังจริยธรรม คุณธรรมให้เยาวชนจะพูดอย่างเดียวไม่ได้ ต้องทำจริงๆ ด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image