สปสช.เดินหน้ารับยาใกล้บ้าน “โมเดล 3” ดีเดย์ 1 ก.ย. เริ่ม 17 รพ. 91 ร้านยา

สปสช.เดินหน้ารับยาใกล้บ้าน “โมเดล 3” ดีเดย์ 1 ก.ย. เริ่ม 17 รพ. 91 ร้านยา

เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ภก.อนันต์ชัย อัศวเมฆิน ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธานเปิดการประชุม “แนวทางการดำเนินงานโครงการรับยาที่ร้านยาใกล้บ้านในรูปแบบที่ 3 (โมเดล 3) ตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข” โดยมี นพ.จักรกริช โง้วศิริ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สำนักสนับสนุนระบบบริการยาและเวชภัณฑ์ กองบริหารสาธารณสุข ร่วมให้ข้อมูลพร้อมชี้แจง ซึ่งมีผู้แทนเภสัชกรโรงพยาบาล (รพ.) ร่วมโครงการเข้าร่วมประชุม

ภก.อนันต์ชัย กล่าวว่า เป้าหมายสำคัญสู่การบรรลุตามนโยบาย “ประเทศไทยแข็งแรง เศรษฐกิจไทยแข็งแรง ประชาชนแข็งแรง” ของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการ สธ. ด้วยการขับเคลื่อนการปฏิรูปด้านสาธารณสุขของประเทศเพื่อสู่สิ่งที่ดีกว่า ซึ่งไทยอยู่อันดับที่ 6 ประเทศที่มีระบบสุขภาพดีที่สุดของโลก สิ่งที่ต้องทำจากนี้ไปคือ การก้าวข้ามและจัดการกับความท้าทายเพื่อนำไปสู่ระบบสาธารณสุขใหม่ ทั้งการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ การพัฒนาสุขภาพในเขตเมือง โรคระบาดและโรคอุบัติใหม่ เช่น โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ขณะนี้ การนำบิ๊กดาต้า เทคโนโลยี และนวัตกรรมต่างๆ มาสนับสนุนระบบสาธารณสุขด้วย

“ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 การผลักดันเทคโนโลยีสาธารณสุขเราสามารถขับเคลื่อนไปได้มาก ในการจัดบริการยุคชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) เพื่อลดความแออัดและแพร่กระจายเชื้อ โมเดลหลายอย่างได้เกิดขึ้น รวมถึงการรับยาที่ร้านยาใกล้บ้าน ซึ่งขณะนี้ได้พัฒนาเข้าสู่โมเดล 3 ที่นับเป็นอีกก้าวหนึ่งของการลดการรอคอยรับยาที่ห้องยา ลดความแออัดใน รพ. และเพิ่มความสะดวกในการรับบริการให้กับประชาชนยิ่งขึ้น รวมถึงลดภาระงานของ รพ. เน้นกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่มีอาการคงที่ โดยให้ร้านยาทำหน้าที่บริหารจัดการยาให้กับผู้ป่วย และยังเป็นการเชื่อมโยงความร่วมมือภาครัฐและเอกชน” ภก.อนันต์ชัย กล่าว

Advertisement

ทั้งนี้ ภก.อนันต์ชัย กล่าวว่า ตามเป้าหมายโครงการรับยาที่ร้านยาโมเดล 3 ร้านยาจะจัดซื้อยาและสำรองยาเพื่อจ่ายยาให้กับผู้ป่วย แต่ในช่วงแรกเริ่มต้นระบบ และเป็นการนำร่อง องค์การเภสัชกรรม (อภ.) จะทำหน้าที่เป็นคนกลางในการจัดซื้อยาแทนร้านยาก่อน โดยใช้ราคากลางอ้างอิงในการจัดซื้อ และกระจายยาโดยใช้ระบบ VMI ไปที่ร้านยา ซึ่งขณะนี้มีรายการยาในระบบกว่า 400 รายการแล้ว ในอนาคตหากพื้นที่ใดมีความพร้อมที่สามารถจัดซื้อเองก็จะปล่อยให้ดำเนินการเอง เป็นการดึงภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อดูแลสุขภาพประชาชนมากขึ้น ซึ่งตามแผนกำหนดจะเริ่มโครงการฯ เต็มรูปแบบได้ในวันที่ 1 กันยายน 2563

ภก.อนันต์ชัย กล่าวว่า ภาพรวมการดำเนินงานโครงการรับยาร้านยาใกล้บ้าน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม -วันที่ 1 กรกฎาคม มี รพ.เข้าร่วมโครงการ 130 แห่ง ร้านยา 1,033 แห่ง ผู้ป่วยสะสม 17,154 ราย และจำนวนการรับยา 24,870 ครั้ง ทั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นรูปแบบที่ 1 อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มี รพ.ที่แสดงความจำนงปรับโครงการรับยาร้านยาใกล้บ้านเป็นรูปแบบที่ 3 แล้ว จำนวน 17 แห่ง ร้านยา 91 แห่ง โดย รพ.ที่เข้าร่วมนี้ส่วนใหญ่เป็น รพ.อันดับต้นๆ ที่มีผู้ป่วยที่เข้าร่วมโครงการรับยาร้านยาจำนวนมาก และยังมี รพ.ที่สนใจร่วมโครงการเพิ่มเติม

Advertisement

“นอกจากนี้ สปสช. จะมีการจัดชี้แจงแนวทางการดำเนินงานให้กับ รพ. และร้านยาอีกครั้ง ในระหว่างนี้ขอให้ รพ. และร้านยาร่วมกันหารือถึงแนวทางการดำเนินการ ทั้งรายการยา กลู่มผู้ป่วย ระบบเชื่อมต่อข้อมูล และการประสานงาน เป็นต้น โดยโครงการรับยาร้านยาใกล้บ้านรูปแบบที่ 3 นี้ ในปีแรกยังเป็นการทดลองดำเนินการและศึกษาข้อมูล โดยมีสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) ร่วมเก็บข้อมูลและประเมินผล เพื่อนำไปสู่การปรับรูปแบบให้เหมาะสมต่อไป” ภก.อนันต์ชัย กล่าว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image