กทม.ปรับปรุงภูมิทัศน์ พัฒนาระบบบำบัดน้ำเสีย ความปลอดภัย นำร่อง “คลองแสนแสบ”

กทม.ปรับปรุงภูมิทัศน์ พัฒนาระบบบำบัดน้ำเสีย ความปลอดภัย นำร่อง “คลองแสนแสบ”

เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานการประชุมคณะทำงานจิตอาสาพระราชทาน โครงการพัฒนาระบบบำบัดน้ำเสียและระบบความปลอดภัยทางน้ำในคลองต้นแบบ (คลองผดุงกรุงเกษมและคลองแสนแสบ) โดยมี นายณรงค์ เรืองศรี ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ ตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักการจราจรและขนส่ง สำนักการวางผังและพัฒนาเมือง สำนักการโยธา และสำนักงานเขตในพื้นที่ริมคลองแสนแสบและคลองสาขา 21 เขต ร่วมหารือที่ศาลาว่าการ กทม.2

นางศิลปสวย กล่าวว่า สืบเนื่องจากศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน (ศอญ.) มีคำสั่งที่ 8/2563 ลงวันที่ 3 มิถุนายน 2563 แต่งตั้งคณะทำงานจิตอาสาพระราชทาน โครงการพัฒนาระบบบำบัดน้ำเสีย และระบบความปลอดภัยทางน้ำในคลองต้นแบบ (คลองผดุงกรุงเกษมและคลองแสนแสบ) โดยแบ่งคณะทำงานย่อยออกเป็น 3 คณะ ประกอบด้วย คณะทำงานที่ 1 งานพัฒนาบำบัดน้ำเสีย โดยสำนักการระบายน้ำ คณะทำงานที่ 2 งานพัฒนาสิ่งแวดล้อมริมฝั่งคลอง โดยสำนักงานเขตในพื้นที่ริมคลองแสนแสบและคลองสาขา และ คณะทำงานที่ 3 งานดูแลความปลอดภัยทางน้ำ (การเดินเรือ) โดยสำนักการจราจรและขนส่ง เพื่อให้การปฏิบัติงานด้านจิตอาสาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดประสิทธิผล และขับเคลื่อนงานให้บรรลุผลเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ ภายในระยะเวลา 6 เดือน เริ่มวันที่ 1 กันยายนนี้ ทั้งนี้คลองแสนแสบมีความยาวประมาณ 45,450 เมตร มีคลองสาขา 101 คลอง โดยมีสำนักงานเขตในพื้นที่ริมคลองแสนแสบและคลองสาขา 21 เขต

“ในที่ประชุมได้นำเสนอแผนการดำเนินงานของสำนักงานเขตในพื้นที่ริมคลองแสนแสบและคลองสาขา ในงานพัฒนาบำบัดน้ำเสีย เริ่มต้นที่ถนนที่มีท่อระบายน้ำเชื่อมต่อกับคลองโดยตรง และชุมชนอาคารริมคลอง ดังนี้ 1.สำนักงานเขตดำเนินการตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522” ปลัดกทม. กล่าว

นอกจากนี้ ปลัดกทม. กล่าวว่า 2.จัดทำแผนรณรงค์ ประชาสัมพันธ์ ให้คำแนะนำกับอาคาร สถานประกอบการที่เป็นแหล่งกำเนิดน้ำเสีย เพื่อให้คำแนะนำการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายกำหนด 3.จัดทำบัญชี สถานประกอบการ ร้านค้า อาคาร เพื่อประกอบในการติดตามประเมินผล และรายงานผลการดำเนินการ 4.ตรวจติดตามประเมินผลการดำเนินงาน 5.ดำเนินคดีกับสถานประกอบการ ร้านค้า อาคาร ที่ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำ และ 6.ทำแผนจัดการน้ำเสียในคู คลอง ทั้งนี้สถานประกอบการ อาคาร ที่ต้องตรวจแนะนำ ได้แก่ 1.ห้างสรรพสินค้า โรงแรม โรงเรียน หอพัก ภัตตาคาร คอนโดมิเนียม โรงพยาบาล วัด ตลาด ทุกประเภท สถานีบริการน้ำมัน หมู่บ้าน และชุมชนที่อยู่ติดคลอง สถานที่เพาะพันธุ์เลี้ยงและอนุบาลสัตว์ทุกชนิด 2.ร้านอาหารทุกประเภท และหาบเร่แผงลอยที่จำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จทุกประเภท 3.สถานประกอบการที่ก่อให้เกิดน้ำเสีย เช่น อู่ซ่อมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ล้างอัดฉีดรถยนต์ ร้านเบเกอรี่ โดยมีหน่วยงานที่รับผิดชอบ ประกอบด้วย 1.ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล 2.ฝ่ายเทศกิจ 3.ฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ และ 4.ฝ่ายโยธา

Advertisement

สำหรับงานพัฒนาสิ่งแวดล้อมริมฝั่งคลอง นางศิลปสวย กล่าวว่า ในส่วนความรับผิดชอบของสำนักงานเขตให้ต้องดำเนินการ ดังนี้ ระยะเวลา 1-3 เดือน ได้แก่ 1.จัดระเบียบทางเดินริมสองฝั่งคลอง ไม่ให้มีการตั้งวาง ตาก แขวน สิ่งของตามทางเดิน ทางเท้า และที่ราวกันตกริมเขื่อน 2.รื้อย้ายสิ่งก่อสร้างที่รุกล้ำทางเดินริมเขื่อน เช่น เพิงหลังคา ผ้าใบกันสาด เสาซุ้มต่างๆ 3.บริหารจัดการการจัดเก็บขยะ ที่พักขยะริมคลอง ให้สะอาดเรียบร้อย ไม่ให้มีขยะตกค้างหรือตกหล่นลงในคลอง 4.ล้างทำความสะอาดราวกันตกและคานหลังเขื่อน พื้นทางเดิน หลังเขื่อนไม่ให้มีคราบตะไคร่ คราบน้ำสกปรก ระยะเวลา 1-6 เดือน ได้แก่ ซ่อมแซมราวกันตก ทาสีใหม่ ซ่อมแซมพื้นทางเดินริมเขื่อน ซ่อมแซมสะพานทางเดินข้ามคลอง ทำความสะอาด และทาสีใหม่ ซ่อมแซมไฟฟ้าแสงสว่างตามทางเดิน และติดตั้งเพิ่มเติมให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย

ปลัดกทม. กล่าวว่า 4.กำจัดวัชพืช ต้นไม้ที่ขึ้นบนกำแพงเขื่อน และตามทางเดินริมเขื่อน 5.ซ่อมแซมโป๊ะ ท่าน้ำ ท่าเรือ ทำความสะอาด และทาสีให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย ระยะเวลา 1-12 เดือน ได้แก่ รื้อย้ายโป๊ะ ท่าน้ำ ท่าเรือที่ชำรุดใช้งานไม่ได้และที่ไม่ได้รับอนุญาต ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนปรับปรุงพื้นที่ของตนเองให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่สกปรก ประชาสัมพันธ์ให้เจ้าของอาคาร บ้านเรือน ทำความสะอาด ซ่อมแซม หน้าบ้านด้านริมคลอง ทาสีตัวอาคาร รั้ว และสิ่งก่อสร้างที่เก่าทรุดโทรม ปรับปรุงภูมิทัศน์ตามทางเดินริมคลองเป็นจุดๆ ให้มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง ให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย สวยงาม สร้างกิจกรรม และฟื้นฟูวิถีชีวิตริมฝั่งคลอง ตามชุมชนที่มีประวัติศาสตร์ เพื่ออนุรักษ์ วัฒนธรรม ประเพณีดั้งเดิม ระยะ 1-24 เดือน ได้แก่ ออกแบบชุมชนเมือง ทั้งสองฝั่งคลอง ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม สถาปัตยกรรมพื้นถิ่น ให้ฟื้นคืนทั้งสุนทรียภาพ คุณภาพชีวิต สังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมที่ดี มีเอกลักษณ์ของท้องถิ่น พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว

“ในเบื้องต้นนำผลการศึกษาวิจัยต่างๆ ที่เคยศึกษาไว้แล้วนำมาพัฒนาปรับปรุงย่านต่างๆ เช่น ชุมชนบ้านครัว ชุมชนริมคลองแสนแสบตลาดเก่ามีนบุรี ชุมชนเมืองหนองจอก ชุมชนเมืองย่านบางกะปิ คลองแสนแสบ ส่วนงานดูแลความปลอดภัยทางน้ำ (การเดินเรือ) ดำเนินการปรับปรุงท่าเรือให้มีความมั่นคง แข็งแรง ปลอดภัย อย่างไรก็ตาม สำนักงานเขตในพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะลงเรือสำรวจสภาพปัญหาของแต่ละพื้นที่ เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาและกำหนดกิจกรรมที่ต้องดำเนินการเพิ่มเติม เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และขับเคลื่อนงานให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการต่อไป” ปลัด กทม.กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image