กทม.เล็งใช้ ปว.44 กำจัดซากรถ เร่งเคลียร์ 171 จุดผ่อนผัน ที่ยังไม่ยกเลิก
เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหาร กทม. ผู้บริหารสำนักเทศกิจ และหัวหน้าฝ่ายเทศกิจ สำนักงานเขต เพื่อมอบนโยบายและแนวทางการปฏิบัติงานแก่เจ้าหน้าที่เทศกิจ ว่า ตามที่สำนักเทศกิจ ได้ดำเนินนโยบายจัดระเบียบหาบเร่-แผงลอย และจัดทำแผนปฏิบัติการจัดระเบียบผู้ค้าหาบเร่-แผงลอย เพื่อคืนทางเท้าให้แก่ประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยมีเป้าหมายเพื่อยกเลิกจุดผ่อนผันให้ครอบคลุมพื้นที่ 50 สำนักงานเขต จำนวน 683 จุด ปัจจุบันได้ดำเนินการประกาศยกเลิกจุดผ่อนผันเรียบร้อยแล้ว 512 จุด ยังเหลือจุดผ่อนผันที่อยู่ระหว่างดำเนินการยกเลิกอีก 171 จุด ในพื้นที่ 18 สำนักงานเขต
รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวถึงจุดผ่อนผันที่ยังไม่ได้ประกาศยกเลิก 171 จุด ได้มอบหมายสำนักงานเขตทั้ง 18 เขต จัดทำแผนและเร่งดำเนินการ หากจุดผ่อนผันใดมีศักยภาพ สามารถเป็นพื้นที่ทำการค้า และเป็นไปตามประกาศ กทม. เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดพื้นที่ทำการค้าและการขายหรือจำหน่ายสินค้าในที่สาธารณะ ลงวันที่ 28 มกราคม 2563 ให้เสนอคณะกรรมการรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยของ กทม.พิจารณา เพื่อประกาศเป็นพื้นที่ทำการค้าต่อไป ส่วนจุดผ่อนผันจุดใดที่ปัจจุบันไม่มีผู้ค้าแล้ว หรือมีผู้ค้าจำนวนไม่ถึง 10 ราย และขัดต่อประกาศฉบับใหม่ ให้เสนอเรื่องขอยกเลิกต่อสำนักเทศกิจ เพื่อเสนอผู้ว่าฯ กทม.ลงนามประกาศยกเลิกต่อไป โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จสิ้นภายในเดือนพฤศจิกายนนี้
นายสกลธี กล่าวว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาวินรถจักรยานยนต์รับจ้างที่มีสถานที่ตั้งวินอยู่บนทางเท้าสาธารณะ จากการสำรวจวินรถจักรยานยนต์รับจ้างที่จอดบนทางเท้ามี จำนวน 1,167 วิน ปัจจุบันสำนักงานเขตได้ผลักดันให้วินรถจักรยานยนต์รับจ้างลงไปจอดในบริเวณที่ไม่ใช่ทางเท้าแล้ว จำนวน 340 วิน ส่วนการดำเนินการโครงการกวดขันรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จอดหรือขับขี่บนทางเท้า ตั้งแต่วันที่ 9 กรกฎาคม 2561- วันที่ 10 สิงหาคม 2563 สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ 34,492 ราย ดำเนินการว่ากล่าวตักเตือน 3,830 ราย ดำเนินคดี 28,859 ราย อยู่ระหว่างดำเนินคดี 1,803 ราย เปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 35,645,900 บาท โดยระหว่างวันที่ 1-10 สิงหาคม สำนักงานเขตสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ 193 ราย แยกเป็น ประชาชนทั่วไป 174 ราย วินจักรยานยนต์ 7 ราย แกร๊ป 12 ราย ปรับเป็นเงิน 355,000 บาท
“ส่วนการดำเนินการกรณีป้ายโฆษณาที่ติดตั้งในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม 2561- วันที่ 10 สิงหาคม 2563 สำนักงานเขต จัดเก็บได้ 169,046 ป้าย แจ้งความดำเนินคดี 50 ราย จับ-ปรับ 4,023 คดี ปรับเป็นเงิน 12,466,800 บาท โดยระหว่างวันที่ 1-10 สิงหาคม สำนักงานเขตจัดเก็บได้ 1,533 ป้าย จับปรับ 29 คดี ปรับเป็นเงิน 50,200 บาท” นายสกลธี กล่าวและว่า สำหรับโครงการเทศกิจ School Care ได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอำนวยความสะดวกด้านการจราจรและจัดให้เว้นระยะห่าง ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 บริเวณหน้าโรงเรียน จำนวน 805 โรงเรียน ประกอบด้วย โรงเรียนสังกัด กทม. 400 แห่ง โรงเรียนสังกัด สพฐ. 114 แห่ง และโรงเรียนสังกัดเอกชน 291 แห่ง โดยมีเจ้าหน้าที่ร่วมปฏิบัติงาน รวมทั้งสิ้น 2,158 ราย รวมทั้งนโยบายการจัดระเบียบการจอดทิ้งซากรถยนต์ไว้บนถนนหรือสถานสาธารณะ จากการสำรวจเบื้องต้น มีจำนวน 400 คัน ปัจจุบันดำเนินการยกซากรถไปแล้ว 85 คัน คงเหลือ 315 คัน
รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงการยกซากรถยนต์บนถนนหรือสถานที่สาธารณะ ได้มอบหมายสำนักงานเขตตรวจสอบพื้นที่อีกครั้ง เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนมาอย่างต่อเนื่องจะมีจำนวนมากกว่า 400 คัน และอาจพิจารณาใช้คำสั่งคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 44 (ปว.44) เพื่อความรวดเร็วในการดำเนินการยกและกำจัดซากรถยนต์ พร้อมทั้งให้เขตสำรวจพื้นที่เพื่อเป็นสถานที่จัดเก็บซากรถเป็นการชั่วคราว โดยในอนาคตจะขอใช้พื้นที่ของกทม.ที่เป็นที่ว่างเพื่อรองรับต่อไป สำหรับอุปกรณ์ในการยกซาก (รถยก) เบื้องต้นได้มอบหมายสำนักเทศกิจประสานกองโรงงานช่างกล สำนักการคลัง กทม.ดำเนินการ ส่วนในระยะยาวจะขอจัดสรรงบประมาณเพื่อจัดซื้อรถยกและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องให้แก่สำนักงานเขตต่อไป โดยภายในสัปดาห์หน้าจะจัดทำตารางแผนการทำงาน เพื่อให้แต่ละสำนักงานเขตเริ่มดำเนินการจัดระเบียบยกซากรถยนต์ในพื้นที่ต่อไป
