สธ.เตือนผู้ค้าหัวหมอ ‘เนื้อหมูอาบเลือดวัว’ เจอจับปรับ 2 หมื่นบาท!

สธ.เตือนผู้ค้าหัวหมอ “เนื้อหมูอาบเลือดวัว” เจอจับปรับ 2 หมื่นบาท!

เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากการที่มีผู้ประกอบการบางรายนำเนื้อหมูหมักเลือดวัวมาปลอมเป็นเนื้อวัว เพื่อจำหน่ายให้ได้ราคาสูงขึ้น ทำให้ปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค ดังนั้น ผู้บริโภคควรสังเกตก่อนการเลือกซื้อเนื้อ ซึ่งเนื้อวัวควรมีลักษณะสีแดงสด เนื้อแน่น ลายเส้นไม่หยาบ โดยให้ใช้นิ้วกดดู เนื้อจะยืดหยุ่น ไม่มีรอยบุ๋ม รวมทั้งต้องไม่มีเม็ดสีขาวใสคล้ายเม็ดสาคู เพราะเป็นตัวอ่อนของพยาธิตัวตืด

พญ.พรรณพิมลกล่าวว่า สำหรับเนื้อสัน ควรจะมีสีแดงสดและมีมัน ปรากฏอยู่เป็นจุดเล็กๆ ลักษณะของไขมันแตกง่าย ไม่มีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว ไม่มีเมือก เมื่อวางไว้จะมีน้ำสีแดงออกมา นอกจากนี้ ควรเลือกซื้อจากแหล่งที่มีการรับรองมาตรฐานตลาดสดน่าซื้อ หรือสังเกตจากตราประทับบนหนังสัตว์ที่ชำแหละจากโรงฆ่าสัตว์ที่ได้รับการรับรองจากกรมปศุสัตว์ หรือร้านที่มีใบรับรองของฮาลาล

“ทั้งนี้ สำหรับบุคคลที่มีการปลอมแปลงอาหาร ถือได้ว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522 หมวด 4 การควบคุมอาหารตามมาตรา 25 ห้ามมิให้ผู้ใดผลิต นำเข้าเพื่อจำหน่าย หรือจำหน่ายซึ่งอาหารปลอม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้
ตามมาตรา 7 อาหารที่มีลักษณะดังต่อไปนี้ให้ถือว่าเป็นอาหารปลอม (1) อาหารที่ได้สับเปลี่ยนใช้วัตถุอื่นแทนบางส่วน หรือคัดแยกวัตถุที่มีคุณค่าออกเสียทั้งหมดหรือบางส่วน และจำหน่ายเป็นอาหารแท้อย่างนั้น หรือใช้ชื่ออาหารแท้นั้น (2) วัตถุหรืออาหารที่ผลิตขึ้นเทียมอาหารอย่างหนึ่งอย่างใดและจำหน่ายเป็นอาหารแท้อยางนั้น (3) อาหารที่ได้ผสมหรือปรุงแต่วด้วยวิธีใดๆ โดยประสงค์จะปกปิดซ่อนเร้นความชำรุดบกพร่องหรือความด้อยคุณภาพของอาหาร” พญ.พรรณพิมลกล่าว

ทั้งนี้ อธิบดีกรมอนามัยกล่าวว่า ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ถึงแม้ว่าในประเทศไทยจะไม่พบผู้ป่วยเพิ่มแล้วก็ตาม แต่ผู้บริโภคและผู้จำหน่ายต้องปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ด้วยการสวมถุมือหรือใช้ที่คีบเนื้อสัตว์ ไม่สัมผัสเนื้อสัตว์โดยตรง และเมื่อนำเนื้อสัตว์มาปรุงเป็นอาหารควรทำให้สุกร้อนอย่างทั่วถึง รวมทั้งหมั่นล้างมือบ่อยๆ ก่อนและหลังกลับจากตลาด ที่สำคัญต้องสวมหน้ากากทุกครั้งเมื่อออกนอกบ้าน และเว้นระยะห่างเพื่อลดความแออัดอยู่เสมอ

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image