รื้อม่อนดอยลอยฟ้า รีสอร์ท รุกป่าม่อนแจ่ม ทส.เผยต่อคิวอีก 4 แห่ง

รื้อม่อนดอยลอยฟ้า รีสอร์ท รุกป่าม่อนแจ่ม ทส.เผยต่อคิวอีก 4 แห่ง ม่อนม่วน-ไร่นาย-ม่อนจ้อ-ม่อนแสนสิริจันทรา

เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาที่ดินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ริม (ม่อนแจ่มและพื้นที่ใกล้เคียง) โดยมี นายอรรคพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมที่ห้องประชุมสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

จากนั้น นายธเนศพล กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจาก นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการ ทส.ให้ติดตามแก้ปัญหาการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ริม หรือม่อนแจ่ม และการฟื้นฟูสภาพดอยม่อนแจ่ม ในพื้นที่โครงการหลวง ที่มีการบุกรุกแผ้วถางก่อสร้างรีสอร์ทเปิดรับนักท่องเที่ยว โดยที่มีผ่านมา กรมป่าไม้ได้มีการดำเนินคดีและรื้อถอนรีสอร์ทผิดกฎหมายมาอย่างต่อเนื่อง เพราะมีการก่อสร้างอาคารในพื้นที่ที่มีความอ่อนไหวต่อระบบนิเวศ ซึ่งเดิมเป็นที่อยู่อาศัย แต่ได้มีการปรับเปลี่ยนให้เป็นสถานประกอบการ ที่พัก รีสอร์ท หรือโรงแรมโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย จำนวนถึง 113 ราย ซึ่งผิดกฏหมายทั้งหมด โดยสามารถดำเนินคดี จำนวน 30 ราย เพราะเป็นนายทุนที่มีนอมินีทั้งต่างชาติและคนไทยเข้ามาดำเนินการและไม่เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 30 มิถุนายน 2541, คำสั่ง คสช.ที่ 66/57 ลงวันที่ 17 มิถุนายน 2557 และไม่เป็นไปตามคำสั่งที่ 6/2562 ลงวันที่ 12 มิถุนายน 2562 ส่วนอีก 83 ราย ทำการพิจารณาจัดระเบียบที่อยู่อาศัยทำกิน เพราะเป็นคนพื้นที่ดำเนินการเองที่มีการก่อสร้างเกินเลยจากข้อกำหนด

Advertisement

ต่อมา นายธเนศพล เดินทางไปยังพื้นที่ม่อนแจ่ม พร้อมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เมื่อไปถึงได้เข้ารื้อถอนรีสอร์ทม่อนดอยลอยฟ้า เป็นจุดแรก ตามมาตรา 25 กฎหมายป่าไม้ เป็นบ้านพักโฮมสเตย์ จำนวน 8 หลัง บ้านพักอาศัย จำนวน 2 หลัง และโรงครัว 1 หลัง ข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ และ พ.ร.บ.ความคุมอาคาร ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจยึดพื้นที่แสงอรุณ CAMP พร้อมแจ้งความดำเนินคดีกับ นายสมบัติ เมธาอนันต์กุล และตรวจยึดพื้นที่ 1-0-93 ไร่ ข้อหาเปลี่ยนการครอบครอง ไม่เป็นไปตามมติ ครม. วันที่ 30 มิถุนายน 2541 พร้อมเข้าตรวจสอบพื้นที่ห้างหุ้นส่วน จำกัด ม่อนวิวงาม โดยจากการตรวจสอบพบว่า มีการบุกรุกขยายพื้นที่เพิ่มเติมจากเดิมและก่อสร้างอาคารที่พักบริการนักท่องเที่ยวครอบคลุม เนื้อที่ 22-1-56 ไร่ มีสิ่งปลูกสร้าง จำนวน 130 รายการ ทั้งยังดำเนินการในลักษณะธุรกิจชัดเจน นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบถนนคอนกรีตขนาดความกว้าง 2 เมตร ยาว 15 เมตร เชื่อมต่อมาจากเส้นทางภายในสถานประกอบการมายังบริเวณถังเก็บกักน้ำ จำนวน 4 ถัง ซึ่งถังเก็บกักน้ำมีการต่อระบบประปาโดยใช้ท่อพีวีซี ไปยังสถานประกอบการ อธิบดีกรมป่าไม้ สั่งการให้ร้องทุกข์กล่าวโทษและฟ้องเรียกค่าเสียหายของรัฐ จำนวน 1,527,988.45 บาท

นายอรรถพล กล่าวว่า กรมป่าไม้จะดำเนินการรื้อรีสอร์ทต่อจากรีสอร์ทม่อนดอยลอยฟ้า อีก 4 แห่ง ประกอบด้วยรีสอร์ทม่อนม่วน ดำเนินการโดยบริษัท บ้านเพลินแสงดาว จำกัด บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ เนื้อที่ 11-3-33 ไร่ ไร่นาย บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ เนื้อที่ 5-1-82 ไร่ รีสอร์ทม่อนจ้อและม่อนแสนสิริจันทรา

Advertisement

สำหรับ รีสอร์ท 30 ราย ที่ถูกดำเนินคดีและถูกรื้อถอน ประกอบด้วย 1.ภูชวนหลง 2.บ้านท่าจัน 3.ม่อนซาน 4.ม่อนแสงระวี 5.ม่อนซากุระ 6.แสงเหนือแคมป์ปิ้ง 7.หลังสวนโฮมสเตย์ 8.ภูเบิกฟ้า 9.ม่อนดาวเรือง 10.ม่อนผาสุข 11.ม่อนอิงดาว 12.บ้านภูหมอก 13.ม่อนเหนือ 1,2 14.ม่อนดูดาว 15.ม่อนจ้อ 16.แสงอรุณCAMP 17.ม่อนวิวงาม 18.เบสท์แลนด์ 19.ม่อนไอดิน 20.ไร่นาย 21.ม่อนดอยลอยฟ้า 22.ม่อนใจ 23.ระเบียงร้อยดาว 24.ม่อนม่วน 25.ม่อนไม่มีชื่อ 26.ม่อนแสนสิริจันทรา 27.ม่อนพอเพียง 28.มายาแคมป์ปิ้ง 29.ม่อนไม่มีชื่อ และ 30.แคมป์ไซอิ๋ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image