ยกระดับ 14 เมืองสมุนไพร เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์แข่งขันในตลาดโลก

ยกระดับ 14 เมืองสมุนไพร เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์แข่งขันในตลาดโลก

วันนี้ (17 กันยายน 2563) ที่กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธานการการประชุมคณะกรรมการนโยบายสมุนไพรแห่งชาติ โดยมี นพ.มรุต จิรเศรษฐสิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ ผู้ตรวจราชการ สธ. เขตสุขภาพที่ 5 และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมกระทรวงอุตสาหกรรม (อว.) กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) ร่วมประชุม

นายสาธิต กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการส่งเสริมผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยให้เป็นที่ยอมรับของตลาดทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงมีศักยภาพในการแข่งขันในตลาดโลก จึงได้มอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผลักดันให้เกิดการพัฒนาวิจัย ผลิตสมุนไพรไทยให้เป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพ ยา เครื่องสำอางที่ได้มาตรฐาน รวมถึงส่งเสริมการปลูกพืชสมุนไพรให้ตรงกับความต้องการของตลาด ส่งผลให้เศรษฐกิจประเทศเกิดการพัฒนาอย่างมั่นคง

Advertisement

“ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายสมุนไพรแห่งชาติ มีมติเห็นชอบมาตรการส่งเสริมผู้ประกอบการสมุนไพร โดยให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ร่วมกับกรมการแพทย์แผนไทยฯ เครือข่ายนักวิชาการ เร่งพิสูจน์ความปลอดภัย คุณภาพ ประสิทธิภาพและประกาศเป็นรายการผลิตภัณฑ์สมุนไพรอ้างอิง เพื่อให้การอนุมัติผลิตภัณฑ์สมุนไพรมีความรวดเร็ว ลดความยุ่งยากในการเตรียมเอกสารขออนุญาตของผู้ประกอบการ ส่งเสริมสนับสนุนการสร้างนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สมุนไพร ให้มีระบบการให้คำปรึกษาผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่อยู่ระหว่างการวิจัย และส่งเสริมอุตสาหกรรมสารสกัดสมุนไพร และพัฒนาระบบการรับรองสารสกัดสมุนไพรที่ใช้สำหรับใช้อ้างอิงในการผลิตผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป เพื่อใช้เป็นเอกสารรับรองการส่งออก เป็นการส่งเสริมการตลาด เพิ่มมูลค่าการส่งออก” นายสาธิต กล่าวและว่า ได้ตั้งศูนย์ส่งเสริมผู้ประกอบการสมุนไพร เพื่อให้คำปรึกษาผู้ประกอบการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย มีการจัดอบรมยกระดับผู้ประกอบการ ส่งเสริมภาพลักษณ์ทางการตลาด และให้ข้อมูลผู้ประกอบการสมุนไพรแบบครบวงจร (One Stop Service) พร้อมสนับสนุนสมุนไพรเป็น Product Champions

นายสาธิต กล่าวว่า คณะกรรมการฯ ยังมีมติเห็นชอบให้ยกระดับเมืองสมุนไพรทั้ง 14 แห่งทั่วประเทศ ให้มีความเข้มแข็ง แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ การเกษตรวัตถุดิบสมุนไพร (อำนาจเจริญ, สุรินทร์, มหาสารคาม, อุทัยธานี, สกลนคร) อุตสาหกรรมสมุนไพร (นครปฐม, สระบุรี, ปราจีนบุรี, จันทบุรี) และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและความงาม (เชียงราย, พิษณุโลก, อุดรธานี, สุราษฎร์ธานี, สงขลา)

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image