สปสช.แจงยิบ ปมฉีกสัญญาคลินิก-รพ.เอกชน ย้ำ เฉพาะ กทม. เท่านั้น สิทธิบัตรทองของ ปชช.ยังคงอยู่

สปสช.แจงยิบ ปมฉีกสัญญาคลินิก-รพ.เอกชน ย้ำ เฉพาะ กทม. เท่านั้น สิทธิบัตรทองของ ปชช.ยังคงอยู่

เมื่อวันที่ 19 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) กล่าวถึงกรณีที่ สปสช.บอกยกเลิกสัญญาการให้บริการสาธารณสุข ของคลินิกชุมชนอบอุ่นและโรงพยาบาล(รพ.)เอกชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร(กทม.)ที่กระทำผิดสัญญาให้บริการสาธารณสุขในการเบิกจ่ายเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือบัตรทอง จำนวน 64 แห่ง ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 18 กันยายนเป็นต้นไป

นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า การบอกเลิกสัญญาดังกล่าวนั้น จะส่งผลให้ประชาชนที่มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทอง ของคลินิกชุมชนอบอุ่นและ รพ. ทั้ง 64 แห่งในพื้นที่ กทม. ได้รับผลกระทบประมาณ 800,000 ราย ทั้งนี้ สปสช.ขอย้ำว่า สิทธิบัตรทอง 30 บาทของประชาชนกลุ่มดังกล่าวยังคงอยู่ และการยกเลิกสัญญาเกิดขึ้นเฉพาะในพื้นที่ กทม.เท่านั้น ต่างจังหวัดไม่ได้รับผลกระทบ

“ในช่วงที่ สปสช.กำลังดำเนินการจัดหาหน่วยบริการแห่งใหม่ทดแทน จึงมีแนวทางให้กับประชาชนในการเข้ารับบริการสาธารณสุข ประกอบด้วย กรณีเจ็บป่วยทั่วไปหรือมีแผนการรักษาพยาบาลกับหน่วยบริการทั้ง 64 แห่ง สามารถเข้ารับบริการรักษาพยาบาลต่อเนื่องได้ที่หน่วยบริการภาครัฐและเอกชน ได้แก่ รพ.ของรัฐ และเอกชนในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือศูนย์บริการสาธารณสุขใกล้บ้าน ได้โดยไม่ต้องใช้หนังสือส่งตัว” นพ.ศักดิ์ชัย กล่าว

นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวต่อว่า สามารถดูรายชื่อหน่วยบริการในพื้นที่ กทม. ได้ที่ https://bkk.nhso.go.th/ucs-around-me/ สำหรับหน่วยบริการที่ประชาชนสิทธิบัตรทองกลุ่มดังกล่าวเข้าไปรักษานั้น สปสช.ได้ทำหนังสือแจ้งหน่วยบริการทุกแห่งว่า ให้บริการสาธารณสุขและขอรับค่าใช้จ่ายเป็นกรณีผู้ป่วยสิทธิว่างมาที่ สปสช. โดยไม่ต้องเก็บเงินจากผู้ป่วย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bkk.nhso.go.th/main/shownews.php?newsid=4666 และสำหรับกรณีผู้ป่วยที่มีหนังสือส่งตัวเดิมเพื่อไปรักษาที่ รพ.รับส่งต่อที่ถูกยกเลิกสัญญาก็สามารถเข้ารับบริการที่ รพ. ของรัฐใกล้บ้านได้โดยไม่ต้องใช้หนังสือส่งตัว

Advertisement

เลขา สปสช. กล่าวอีกว่า ขณะที่กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน ประชาชนสามารถเข้ารับบริการรักษาพยาบาลได้ที่หน่วยบริการภาครัฐและและเอกชน ได้แก่ รพ.ของรัฐ ศูนย์บริการสาธารณสุข และ รพ.เอกชนที่อยู่ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ หากเป็นภาวะเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติเข้าเกณฑ์เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติมีสิทธิทุกที่ หรือ UCEP (Universal Coverage for Emergency Patients) ก็สามารถเข้ารับบริการที่ รพ.ใดก็ได้ใกล้บ้านได้ และกรณีผู้ป่วยที่ยังนอนรักษาตัวใน รพ. ที่ถูกประกาศยกเลิกสัญญา แต่ยังไม่สิ้นสุดแผนการรักษา ผู้ป่วยกลุ่มนี้จะใช้สิทธินอนรักษาต่อเนื่องได้จนอาการดีขึ้น แพทย์พิจารณาแล้วอนุญาตให้กลับบ้านได้ โดย รพ.ยังเบิกค่าใช้จ่ายกรณีผู้ป่วยกลุ่มนี้มายัง สปสช.ได้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด จึงขอความร่วมมือ รพ.ช่วยดูแลผู้ป่วยกลุ่มนี้ตามมาตรฐานการให้บริการสาธารณสุข

“ในส่วนของผู้ป่วยที่มีนัดผ่าตัดหรือแอดมิทเป็นผู้ป่วยในตั้งแต่วันที่ 18 กันยายน กับ รพ.ที่ถูกบอกยกเลิกจำนวน 7 แห่ง ยังสามารถแจ้งชื่อ วันนัดผ่าตัด และเบอร์โทรศัพท์ มาที่สายด่วน สปสช. 1330 ซึ่งเจ้าหน้าที่จะประสานหน่วยบริการให้ได้รับการรักษาและได้รับผลกระทบน้อยที่สุด หรือหากมีข้อสงสัยก็สามารถสอบถามทางสายด่วน 1330 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยทาง สปสช. ต้องขออภัยความไม่สะดวกในครั้งนี้” นพ.ศักดิ์ชัย กล่าว

ทั้งนี้ นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า เนื่องจากขณะนี้เบอร์สายด่วน ปริมาณการใช้งานจำนวนมาก ผู้ที่โทรเข้ามาสอบถามอาจไม่ได้รับความสะดวก สายไม่ว่าง รอนาน สปสช. ขอแนะนำช่องทางการสื่อสารเพิ่มเติมดังนี้ 1.ประชาชนมีสิทธิอยู่ที่คลินิก-รพ.เอกชน ที่ถูกยกเลิกสัญญาทั้ง 64 แห่ง กรณีไม่มีนัดหรือไม่มีรับยาต่อเนื่องขอให้ประชาชนติดต่อลงทะเบียนใช้สิทธิการรักษาแห่งใหม่ด้วยตนเองผ่านช่องทางแอพพลิเคชั่นไลน์ เลือกลงทะเบียนด้วยตนเองเมนูด้านล่างของไลน์ https://lin.ee/mLvmHpQ หรือที่สำนักงานเขตทั้ง 19 เขตใน กทม. หรือโหลดแอพพ์ของ สปสช. เลือกที่ “ลงทะเบียนด้วยตนเอง” http://onelink.to/ucbkkpp

Advertisement

นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวต่อว่า 2.ตรวจสอบสิทธิและสอบถามเจ้าหน้าที่ผ่านช่องทางไลน์ได้ที่ https://lin.ee/mLvmHpQ หรือตรวจสอบสิทธิผ่านทาง http://eservices.nhso.go.th/eServices/mobile/login.xhtml และสามารถตรวจสอบรายชื่อ 64 คลินิกและ รพ.ที่ถูกยกเลิกสัญญาได้ที่ https://bkk.nhso.go.th/main/shownews.php?newsid=4664

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image