จากกรณีเกิดกระแสข่าวหนุ่มน้อยวัย 13 ปี ที่มีน้องชายเป็นผู้พิการ จนต้องขอลาออกจากโรงเรียน ขณะกำลังเรียนอยู่ชั้นประถมปีที่ 6 เพื่อออกมาทำงานรับจ้างเป็นพนักงานขายนมเปรี้ยวยี่ห้อดัง ในการหาเงินช่วยเลี้ยงดูน้องที่พิการ จนชาวเน็ตหลายรายต่างพากันสงสาร และพร้อมที่จะช่วยกันบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือ แต่ก็ยังมีกระแสอีกบางส่วน เกิดความดราม่าพาเชื่อมโยงไปถึงเรื่องการเมืองและสวัสดิการการศึกษาของประเทศไทย จนเกิดการถกเถียงและวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานาต่อมาสภากาชาดไทยได้ประสานนายกสภากาชาดไทยนครสวรรค์เข้าไปช่วยเหลือและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้น
อ่าน
ชาวโซเชียลสุดปลื้ม เด็กชายอายุ 13 ยอมลาออกแค่ ป.6 เพื่อออกมาทำงานเลี้ยงน้องพิการ
สภากาชาดไทย รุดช่วย ด.ช.วัย 13 ปี ลาออกป.6 ทำงานหาเงินเลี้ยงน้องพิการ-ยาย
กาชาด ช่วยน้องด.ช.วัย 13 ที่เลิกเรียนมาขายนมเปรี้ยว สั่งห้ามไม่ให้ทำงาน-ให้เรียนกศน.
ต่อมานายกฤษฎา บุญราช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารกิจการเหล่ากาชาด สภากาชาดไทย เปิดเผยว่า นางประภาวดี สิงหวิชัย นายกเหล่ากาชาดนครสวรรค์ ได้รายงานให้ทราบว่า สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคง(พม.)นครสวรรค์ได้จ่ายเบี้ยความพิการให้น้องสาวของ ด.ช.อาร์ม วัย 13 ปี พร้อมเตรียมรับไปดูแลที่สถานสงเคราะห์ และกาชาดนครสวรรค์ หน่วยงานรัฐอื่นๆที่เกี่ยวข้องได้ช่วยเหลือเยียวยา รวมทั้งมีผู้ใจบุญโอนเงินเข้าบัญชียายของด.ช. กว่า 60,000 บาทแล้ว มูลนิธิพุทธฉือจี้ ได้มอบเครื่องอุปโภค บริโภค และช่วยเหลือเดือนละ 1,000 บาท และโรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครสวรรค์ ได้รับด.ช.อาร์มเข้าเรียนต่อเรียบร้อยแล้ว โดยสโมสรถาวรฟาร์ม รับเป็นผู้ดูแลเรื่องค่าใช้จ่าย