สุขุมวิท 71-วัดศรีเอี่ยม จุดวิกฤตท่วม 3 ชม. ผู้ว่าฯสั่ง 50 เขต จัดรถรับ-ส่งประชาชน

สุขุมวิท 71-วัดศรีเอี่ยม จุดวิกฤตท่วมนาน 3 ชม. ผู้ว่าฯอัศวินสั่ง 50 เขต จัดรถรับ-ส่งประชาชน

วันนี้ (7 ตุลาคม 2563) ที่ศาลาว่าการ กทม.2 ดินแดง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมด้วย นายสมพงษ์ เวียงแก้ว และ นางจินดารัตน์ ชโยธิน ที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม. ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร สำนักการระบายน้ำ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือผลกระทบจากพายุดีเปรสชั่นที่อาจทำให้เกิดฝนตกในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศไทย รวมถึงพื้นที่กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 7-9 ตุลาคมนี้ โดยมี นายณรงค์ เรืองศรี ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ รายงานข้อมูลการปฏิบัติงาน

พล.ต.อ.อัศวินเปิดเผยว่า กรมอุตุนิยมวิทยาได้แจ้งเตือนว่า ในช่วงวันที่ 7-9 ตุลาคมนี้ หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุดีเปรสชั่น และเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคตะวันออก อ่าวไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบน ซึ่งจะส่งผลให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งกรณีดังกล่าว กทม.ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เตรียมความพร้อมในการรับมือปริมาณน้ำฝนที่เกิดจากพายุดีเปรสชั่นดังกล่าว

“โดยมีการจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ฝนและเฝ้าระวังปัญหาน้ำขังเร่งระบายในพื้นที่กรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงคณะผู้บริหาร กทม.ได้แบ่งภารกิจเฝ้าระวังติดตามในพื้นที่ต่างๆ ด้วย ซึ่งในวันที่ 8 ตุลาคมนี้ จะลงพื้นที่บริเวณอุโมงค์ระบายน้ำพระราม 9 เพื่อตรวจสอบว่าต้องดำเนินการในส่วนใดเพิ่มเติมบ้าง ส่วนตัวคาดว่าพายุดังกล่าวจะส่งผลให้มีฝนตกในพื้นที่กรุงเทพฯ สูงสุดประมาณ 100 มิลลิเมตร ซึ่งก็ได้เตรียมความพร้อมรับมือฝนอย่างเต็มที่ ทั้งเครื่องผลักดันน้ำ เครื่องสูบน้ำให้มีความพร้อมใช้งานได้อย่างเต็มกำลัง รวมถึงการจัดเจ้าหน้าประจำจุดเสี่ยงต่างๆ” ผู้ว่าฯกทม.กล่าว

Advertisement

ทั้งนี้ พล.ต.อ.อัศวินกล่าวว่า ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีฝนตกในพื้นที่กรุงเทพฯ มากถึง 150 มิลลิเมตร โดยเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม มีฝนตกมากกว่า 100 มิลลิเมตร ซึ่งหากมีฝนตกมากกว่า 100 มิลลิเมตร จำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการระบายน้ำเพิ่มขึ้น ขณะนี้มี 2 จุด ที่ใช้เวลาในการระบายน้ำนานสุดประมาณ 3 ชั่วโมง คือ บริเวณสุขุมวิท 71 ซึ่งเป็นจุดที่เชื่อมต่อกับ อ.สำโรง จ.สมุทรปราการ และบริเวณหน้าวัดศรีเอี่ยม ซึ่งเป็นพื้นที่แอ่งกระทะ และอยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวง ทางรัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวแล้ว

ผู้ว่าฯกทม.กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้กำชับให้สำนักการระบายน้ำลดระดับน้ำในคลองเพื่อเตรียมรองรับปริมาณน้ำฝนในระยะนี้ สำนักงานเขตจัดเจ้าหน้าที่ประจำจุดเสี่ยงต่างๆ คอยช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้ประชาชนหากเกิดกรณีมีน้ำขังเร่งระบาย

Advertisement

“และหากพื้นที่ใดที่มีน้ำสูงทำให้เดินทางเข้าออกลำบากให้สำนักงานเขตจัดรถบริการรับ-ส่งประชาชน ซึ่งในการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังรอระบายนั้น กทม.ได้ให้ความสำคัญตลอดมา จะเห็นว่าปัจจุบันการระบายน้ำในพื้นที่ต่างๆ ของ กทม.สามารถทำได้เร็วขึ้นกว่าเดิม แต่หากเกิดฝนตกหนักปริมาณมากกว่า 100 มิลลิเมตร จำเป็นจะต้องใช้เวลาในการระบายน้ำเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม กทม.พร้อมให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้ประชาชนอย่างเต็มที่ เพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบและได้รับความเดือดร้อนน้อยที่สุด” พล.ต.อ.อัศวินกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image