สธ.ชงต่างชาติเที่ยวควบกักโควิด-19 เล็ง 3 จว.แรก ชลบุรี-ภูเก็ต-บุรีรัมย์

สธ.ชงต่างชาติเที่ยวควบกักโควิด-19 เล็ง ชลบุรี-ภูเก็ต-บุรีรัมย์ แต่ต้องถามคนพื้นที่ด้วย 

วันนี้ (12 ตุลาคม 2563) ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) แถลงมาตรการผ่อนปรนเพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยว ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ว่า ขณะนี้มีแนวคิดในการกักกันโรครูปแบบใหม่ สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาประเทศไทย ซึ่งเมื่อเข้ามาระยะสั้นอยู่แล้ว และต้องกักตัวอีก 14 วัน อาจทำให้เหลือเวลาในการท่องเที่ยวไม่มาก จึงมีแนวคิดว่า จะทำอย่างไรเพื่อเป็นการควบคุมโรคพร้อมทั้งได้ท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย ขณะเดียวกัน ยังเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจภายในประเทศ

“สบส. จึงมีแนวคิดในการจัดทำระบบกักกันตัวร่วมกับการท่องเที่ยวแบบกำหนดพื้นที่เฉพาะ หมายถึงเมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไทย แทนที่จะกักตัว 14 วัน อยู่ในแต่ในห้องพัก ก็จะสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวตามแพคเกจที่เรากำหนด เช่น สถานที่เที่ยวที่เปิดโล่ง สถานที่เที่ยวที่ความเสี่ยงน้อย เป็นต้น” นพ.ธเรศกล่าว และว่า การท่องเที่ยวลักษณะนี้จะกำหนดพื้นที่ตายตัวว่า จะไปเส้นทางไหนได้บ้าง ซึ่งจะต้องมีระบบติดตามตัว (Tracking) นักท่องเที่ยว เป็นเครื่องมือไม่ให้ออกนอกเส้นทาง และมีเจ้าหน้าที่ควบคุมตลอดเส้นทางการเดินทาง ซึ่งได้มีการหารือกับจังหวัดที่มีความพร้อม และเป็นจังหวัดท่องเที่ยวหลัก อาทิ ชลบุรี ภูเก็ต ระยอง เชียงใหม่ เชียงราย บุรีรัมย์ และสุราษฎร์ธานี

นพ.ธเรศกล่าวว่า หลายจังหวัดมีความสนใจแนวคิดนี้ โดยเฉพาะมีบางจังหวัดมีความสนใจมาก อย่างล่าสุดได้หารือกับผู้ว่าราชการจังหวัด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) ชลบุรี แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ต้องสอบถามความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ด้วย ว่ามีความพร้อมหรือไม่ ซึ่งจะมีการลงพื้นที่และทำการสอบถามเรื่องนี้

นพ.ธเรศกล่าวว่า ส่วนการเลือกนักท่องเที่ยวเข้ามานั้น ต้องเลือกประเทศต้นทางที่มีการควบคุมโรคได้ดี เช่น จีน มีบางมลฑล 100 ล้านคน ไม่มีโควิด-19 มาประมาณ 180 วัน โดยเมื่อเลือกประเทศต้นทางเสี่ยงน้อย มีการตรวจโควิด-19 เป็นลบ และเมื่อมาถึงประเทศไทยก็ไปพื้นที่ท่องเที่ยวประมาณ 4-5 แห่ง ที่ควบคุมได้ และไม่รบกวนบุคคลอื่น ส่วนที่พักก็มีสถานกักกันโรคท้องถิ่น (Local Quarantine) อยู่แล้ว ซึ่งหลักการเห็นตรงกันแต่รายละเอียดต้องหารือกันอีกที

Advertisement

“แต่ที่สำคัญที่สุด ต้องคุยกับพื้นที่ว่า เห็นด้วย เข้าใจ และมั่นใจหรือไม่ อย่างไรก็ตาม พื้นที่ที่ไปคุยนั้นจะต้องมีระบบสุขภาพพื้นฐานที่มีความพร้อม ทั้งโรงพยาบาล (รพ.) ระบบการเฝ้าระวัง การควบคุม เช่น หากมีคนไข้ติดโควิด-19 ระบบตรวจจับรวดเร็ว เป็นต้น เบื้องต้นจังหวัดที่พร้อมมากๆ ก็มี ชลบุรี ภูเก็ต บุรีรัมย์ แต่เราจะลงไปในพื้นที่ เพราะสุดท้ายคนในพื้นที่ต้องตัดสินใจ” นพ.ธเรศกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีนี้เมื่อเดินทางเข้ามายังประเทศไทย แสดงว่าตั้งแต่วันแรก 1-14 วัน สามารถไปท่องเที่ยวตามที่กำหนดหรือไม่ หรือ 7 วันต้องกักตัวก่อน นพ.ธเรศกล่าวว่า ยังไม่ได้คุยรายละเอียดขนาดนั้น แต่หากเป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่ควบคุมได้เฉพาะ ก็จะไปได้ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ยึดความปลอดภัยเป็นหลัก ส่วนกลุ่มที่จะมาก็อยากให้เป็นนักท่องเที่ยวที่มาเป็นกลุ่มเดียวกัน เพื่อการบริหารจัดการได้ง่าย แต่รายละเอียดต้องมีการหารือและพิจารณาอีกครั้ง เพราะสุดท้ายต้องอยู่ที่ประชาชนในพื้นที่

เมื่อถามว่าสถานที่ท่องเที่ยวมีการเลือกหรือไม่ต้องเป็นสถานที่ใด นพ.ธเรศกล่าวว่า เป็นสถานที่เปิดโล่ง และเป็นสถานที่เสี่ยงน้อย ซึ่งมีการพูดคุยว่า สนามกอล์ฟก็น่าจะเป็นอีกพื้นที่ได้เช่นกัน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image