กทม.ติดตามสถานการณ์น้ำใกล้ชิด พร้อมเฝ้าระวังพายุฝนอย่างต่อเนื่อง
วันนี้ (16 ตุลาคม 2563) นายศักดิ์ชัย บุญมา รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารจัดการและประสานงานแก้ไขปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร โดยมี นายสมพงษ์ เวียงแก้ว ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. นายพานุรักษ์ กลั่นนุรักษ์ รองปลัด กทม. พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่สำนักการระบายน้ำ สำนักการโยธา สำนักเทศกิจ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กองโรงงานช่างกล สำนักการคลัง ประธานกลุ่มการปฏิบัติงานของสำนักงานเขต 6 กลุ่มเขต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ที่ศาลาว่าการ กทม. 2 (ดินแดง)
ในที่ประชุมได้รายงานสภาพอากาศ ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้งเตือน เรื่องพายุดีเปรสชั่น (ระดับ 2) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง หรือมีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 15 องศาเหนือ ลองจิจูด 115 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 18 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง ในช่วงวันที่ 17-18 ตุลาคม 2563 โดยจะทำให้บริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง กับมีลมแรง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ซึ่งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อาจได้รับผลกระทบจากพายุดังกล่าว ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่
นายศักดิ์ชัย กล่าวว่า เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ฝน ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งเตือน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม.ได้มอบหมายให้สำนักการระบายน้ำประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประสานความร่วมมือในการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อให้การทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และเกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
“เน้นย้ำในพื้นที่จุดเสี่ยงน้ำท่วมและจุดเฝ้าระวังน้ำท่วม ให้จัดเจ้าหน้าที่ประจำจุดและติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติม การลดระดับน้ำในคลองสายหลัก เตรียมพร้อมรองรับปริมาณน้ำฝน การติดตามรายงานสถานการณ์ฝน สภาพอากาศจากศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วมตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงประสานกรมชลประทานในการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ด้านตะวันออกของกรุงเทพฯอย่างต่อเนื่อง เฝ้าระวังติดตามระดับน้ำในคลองต่าง ๆ เพื่อเป็นการลดผลกระทบ ลดปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ชั้นนอกและชั้นในของกรุงเทพฯ ต่อไป” นายศักดิ์ชัย กล่าว
