กทม.สกัดฝุ่นพิษ ห้ามรถหกล้อขึ้นไป เข้าพื้นที่กรุงเทพฯ 6 โมงเช้า-3ทุ่ม เริ่ม 1 ธ.ค.-ก.พ.64
วันนี้ (16 ตุลาคม 2563) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยมี คณะผู้บริหาร กทม. ตัวแทนกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กรมควบคุมโรค กรมอนามัย กรมอุตุนิยมวิทยา กรมการขนส่งทางบก กรมธุรกิจพลังงาน กรมโรงงานอุตสาหกรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ทั้งนี้ ที่ประชุมได้หารือแนวโน้มสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ รวมทั้งการจัดทำร่างแผนการปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ในกรุงเทพมหานคร ปี 2564 ภายใต้แผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” และแนวทางความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ
พล.ต.อ.อัศวิน เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการประชุมวันนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันหารือแนวทางการป้องกันปัญหาฝุ่น ซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงฤดูหนาวตั้งแต่เดือนธันวาคม เนื่องจากสภาพอากาศปิด ทั้งนี้ปัจจัยการเกิดมีหลายสาเหตุ อาทิ การใช้รถยนต์ การเผาไหม้ หรือการก่อสร้าง ทุกหน่วยงานจึงได้จัดเตรียมข้อตกลงในการดำเนินการร่วมกัน อาทิ กทม.และ บก.จร. จะออกคำสั่งห้ามรถยนต์ตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไปวิ่งเข้าพื้นที่กรุงเทพฯ ในช่วงกลางวัน 06.00 – 21.00 น. โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมนี้เป็นต้นไป จนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2564 เพื่อลดมลพิษจากควันรถที่มีการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์
“นอกจากนี้ กทม.ได้จัดตั้งสถานีตรวจวัดค่าฝุ่นละอองครบทั้ง 50 เขต อยู่ระหว่างการติดตั้งบริเวณสวนสาธารณะเพิ่มเติมอีก 20 แห่ง เพื่อให้ประชาชนที่ประสงค์ไปใช้พื้นที่ออกกำลังกายได้รับทราบข้อมูลเพื่อเตรียมพร้อมในการดูแลตนเอง สำหรับมาตรการที่ กทม.ได้ดำเนินการในปีที่ผ่านมา และมีประโยชน์กับประชาชน จะให้ดำเนินการมาตรการนั้นๆ ต่อไป” ผู้ว่าฯ กทม. กล่าว
ด้าน ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษก กทม. กล่าวว่า การเกิดฝุ่น PM2.5 เกิดขึ้นจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ การเผาไหม้ทั้งจากรถยนต์ การเผาในที่โล่ง การเผาในรูปแบบอื่นๆ รวมทั้งปัจจัยภูมิอากาศยังมีส่วนสำคัญ ในช่วงที่อากาศปิด อากาศไม่สามารถยกตัวได้ ในช่วงเวลาดังกล่าวจะมีปัญหาฝุ่นละอองสูงในทุกปี ทุกหน่วยงานจึงได้ร่วมกันกำหนดแผนเพื่อแก้ไขปัญหาทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว โดยเรื่องของสถานศึกษาก็เป็นประเด็นสำคัญที่ทุกหน่วยงานเห็นว่าเป็นกลุ่มที่มีความอ่อนไหว จึงเห็นควรให้งดจัดกิจกรรมในที่โล่งแจ้งในช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์
“หากมีสถานการณ์วิกฤตปริมาณฝุ่นสูงเกิน 3 วัน จะพิจารณาให้ปิดโรงเรียน ในส่วนของการก่อสร้างรถไฟฟ้า จะประสานไปยังหน่วยงานที่ดูแล ควบคุมไม่ให้มีฝุ่นฟุ้งกระจาย และในช่วงวิกฤตที่มีปริมาณฝุ่นสูงจะห้ามไม่ให้มีการก่อสร้างนอกอาคาร แต่การก่อสร้างในอาคารยังคงสามารถทำได้” โฆษก กทม.กล่าวและว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือเกี่ยวกับการควบคุมโรงงานที่อาจทำให้เกิดฝุ่น เช่น โรงงานที่มีหม้อไอน้ำ หรือ Boiler ซึ่งมักเป็นสถานที่ที่ก่อให้เกิดฝุ่น รวมถึงโรงพยาบาล และโรงแรมที่มี Boiler ด้วย ทั้งนี้รายละเอียดของแผนทั้งหมดจะแล้วเสร็จในสัปดาห์หน้า
