อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เผย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ลงพื้นที่ จ.ชัยนาท รับมือฤดูแล้งหน้า นำร่อง นำร่อง 3 จังหวัด ชัยนาท ราชบุรี สุพรรณบุรี
เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เปิดเผยว่า วันที่ 21 ต.ค.นี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) และนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัด ทส. จะเดินทางไปตรวจราชการเพื่อติดตามการปฏิบัติงานแก้ไขปัญหาน้ำอุปโภคบริโภคและน้ำเพื่อการเกษตร ที่บ้านธัญญอุดม ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท เพื่อจัดหาน้ำอุปโภคบริโภคให้กับประชาชนในพื้นที่ขาดแคลนน้ำสะอาดทั่วประเทศ ควบคู่ไปกับการพิจารณาแนวทางเก็บกักน้ำฝนไว้ในทุกรูปแบบทั้งน้ำผิวดิน และน้ำใต้ดินให้มากที่สุด เพื่อรอรับฤดูแล้งหน้าที่จะมาเยือนในปีต่อไป หลังจากการที่รัฐบาลได้มอบหมายให้ ทส.โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ดำเนินการ โดยได้ดำเนินโครงการพัฒนาน้ำบาดาลขนาดใหญ่ เพื่อนำน้ำบาดาลบริเวณใกล้แม่น้ำ ซึ่งมีปริมาณมากมาใช้ในการพัฒนาเป็นแหล่งน้ำต้นทุน และเป็นน้ำบาดาลคุณภาพดี เนื่องจากผ่านการกรองโดยธรรมชาติ สามารถนำน้ำบาดาลมาใช้และไม่ส่งผลกระทบต่อน้ำผิวดิน โดยเริ่มดำเนินการในพื้นที่นำร่อง 3 จังหวัด ได้แก่ ชัยนาท ราชบุรี และสุพรรณบุรี ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการวางแผนและกำหนดทิศทางการพัฒนาและการบริหารจัดการน้ำบาดาลร่วมกับน้ำผิวดินในบริเวณพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำสายหลักของประเทศไทย
ด้าน พล.อ.อำนาจ รอดสวัสดิ์ รองหัวหน้าคณะทำงานส่วนอำนวยการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค พร้อมคณะ ลงพื้นที่ จ.ชัยนาท เพื่อติดตามผลการดำเนินงานโครงการที่ได้รับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นในอำนาจของรองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จำนวน 2 โครงการ จากจำนวนทั้งหมด 29 โครงการ คือ 1.การก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็กสายเอเชีย-บ้านหนองตาตน หมู่ที่ 3 ต.อู่ตะเภา อ.มโนรมย์ วงเงินงบประมาณ 1,117,500 บาท เป็นการสร้างถนนจากหมู่บ้านเชื่อมไปยัง ถนนสายเอเชีย เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนและเกษตรในพื้นที่และบริเวณใกล้เคียง จำนวน 2,000 คน 572 ครัวเรือน และ 2.การขยายถนนพร้อมวางท่อระบายน้ำบริเวณหาดกองสิน ซอย 12 หมู่ที่ 5 ต.เขาท่าพระ อ.เมืองชัยนาท วงเงิน 498,000 บาท เพื่อให้ประชาชนมีความสะดวกปลอดภัยในการใช้ถนน เป็นเส้นทางในการทำการเกษตรของเกษตรกรในพื้นที่ มีน้ำสำหรับการเกษตรอย่างเพียงพอ เพื่อให้ประชาชนจำนวน 500 คน 300 ครัวเรือน มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น