เกาะพีพีเฝ้าระวังหินถล่มต่อเนื่อง กรมธรณีชี้หินปูน 260 ล้านปี แตกเพราะสูญเสียเสถียรภาพ

เกาะพีพียังเฝ้าระวังหินถล่ม ร่วมมือกรมธรณีเร่งสำรวจหวั่นเกิดเหตุจุดอื่น พร้อมแจ้งเตือนปชช. ด้านกรมธรณีเผยลักษณะธรณีวิทยาหินปูน ยุคเพอร์เมียนอายุ 260 ล้านปี ภูมิประเทศแบบคาสต์ หินปูนมีรอยแตก เจอคลื่นลมแรงทำมวลหินสูญเสียเสถียรภาพ

เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม นายประยูร พงศ์พันธ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา -หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี หินถล่มบริเวณเกาะทะลุ เขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราฯ ว่า วันนี้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ได้ร่วมกับกรมทรัพยากรธรณีลงสำรวจลักษณะทางธรณีวิทยาของบริเวณพื้นที่เกาะทะลุ พร้อมติดตั้งป้ายเตือนอันตราย โดยจะทำงานร่วมกับกรมทรัพยากรธรณีและได้แจ้งเตือนไปทุกจุด ไม่ให้เข้าใกล้บริเวณที่เสี่ยงอันตราย

 

Advertisement

ด้านกรมทรัพยากรธรณี โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า จากเหตุการณ์หินยักษ์กว่า 3 หมื่นตัน ถล่มลงทะเล บนเกาะทะลุ (เกาะแม่อุไร) เขตอุทยานฯ หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม เกิดเหตุขณะมีพายุดีเปรสชั่น ฝนตกอย่างต่อเนื่อง คลื่นลมกระโชกแรงในพื้นที่ จ.กระบี่ และใกล้เคียง เกาะทะลุตั้งอยู่ในเขตอุทยานฯ หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี มีลักษณะเป็นธรณีวิทยาหินปูน ยุคเพอร์เมียน อายุประมาณ 260 ล้านปี และพื้นที่มีลักษณะภูมิประเทศแบบคาสต์ หินปูนมีรอยแตก รอยแยกมาก เมื่อฝนตกหนักและคลื่นลมแรง น้ำจะแทรกซึมเข้าไปในรอยแตก จนทำให้มวลหินสูญเสียเสถียรภาพ ประกอบกับด้านล่างของภูเขาถูกกัดเซาะจากคลื่นทะเลทำให้เกิดรอยเว้า ทำให้ความสามารถในการรับน้ำหนักหินปูนด้านบนได้น้อยลง จึงทำให้หินปูนแตกเคลื่อนตัวและถล่มลงมาตามแรงโน้มถ่วงของโลกลงสู่ทะเล ซึ่งเป็นเหตุการณ์หินถล่มปกติตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้ทั้งบนบกและในทะเล โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ภูมิประเทศแบบคาสต์

ช่วงที่ผ่านมาบริเวณดังกล่าวได้รับอิทธิพลจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันมีกำลังแรง ส่งผลให้ฝนตกหนักถึงหนักมากและมีคลื่นลมแรง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดหินถล่ม ทั้งนี้มีเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นที่อุทยานฯ หมูเกาะอ่างทอง จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 19 ก.ย. ช่วงที่พายุโนอึล พัดผ่านประเทศไทย ในการนี้กรมทรัพยากรธรณี ได้ให้ความร่วมมือกับอุทยานฯ หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ในการร่วมตรวจสอบทางธรณีวิทยาเพื่อติดตามสถานการณ์และเฝ้าระวังในบริเวณที่หินถล่ม รวมถึงพื้นที่อื่นๆ ที่อาจจะเป็นอันตรายต่อนักท่องเที่ยวต่อไป

Advertisement

 

 

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image