| ที่มา | น19 นสพ.มติชนรายวัน ฉบับวันที่ 17 พ.ย.2563 |
|---|
ประเทศไทย ก้าวเข้าสู่การเปิดเมืองอย่างปลอดภัย ห่างไกลโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 หลายสถานที่เริ่มปรับตัวให้คุ้นชินกับการท่องเที่ยววิถีใหม่ มองหาโอกาสในวิกฤต เพื่อการยกระดับสถานที่ท่องเที่ยว
ชายหาดบางแสน เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ในการพลิกโฉมตัวเอง ด้วยสโลแกน ปอดสะอาด ตับแข็งแรง ใจแสนสุข ณ หาดบางแสน พัฒนาพื้นที่สร้างสุขภาวะที่ดี พร้อมจัดระเบียบชายหาดป้องกันสุขภาพคนไม่สูบ ไม่ดื่ม
ทพ.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ในวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ยังมีจุดพลิกผันเสมือนการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส สสส.เองจึงได้ร่วมมือกับเทศบาลเมืองแสนสุข สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือนิด้า และมหาวิทยาลัยบูรพา ในการพัฒนาหาดบางแสนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวชีวิตวิถีใหม่ โดยหลังจากโควิด-19 ระบาดทำให้แหล่งท่องเที่ยวกลับมาสะอาดขึ้น จึงใช้โอกาสนี้ในการยกระดับหาดบางแสน ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มาพร้อมกับสุขภาวะ และปรับพื้นที่ให้หาดกลับมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอย่างแท้จริง จะต้องปลอดแอลกอฮอล์และบุหรี่ โดย สสส.ได้เข้ามาร่วมสร้างต้นแบบ
“เราไม่ได้มุ่งเรื่องเศรษฐกิจอย่างเดียว แต่จะต้องควบคู่กับคุณภาพชีวิตของคนในท้องถิ่น และจะต้องยกเครดิตให้กับทางท้องถิ่น ที่มีความพยายามยกระดับคุณภาพ เพื่อให้เป็นสถานที่ที่มีคุณภาพสูงขึ้นเรื่อยๆ หากที่ท่องเที่ยวมีสํามะเลเทเมาก็คงไม่ใช่ที่น่าอยู่ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่ใช่เพียงเชิงกายภาพแต่ยังมีเชิงคุณภาพด้วย” ทพ.สุปรีดา กล่าว
ทพ.สุปรีดา กล่าวว่า จากรายงานการสำรวจพฤติกรรมการสูบบุหรี่และการดื่มสุราของประชากรไทย พ.ศ.2560 โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่าประชากร 6.4 ล้านคน สูบบุหรี่และดื่มสุรา ในจำนวนนี้เป็นผู้สูบบุหรี่แบบประจำและดื่มสุราอย่างสม่ำเสมอสูงถึง 3.8 ล้านคน โดยคนกลุ่มนี้มีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs 4 กลุ่มโรคหลัก ได้แก่ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคปอดเรื้อรัง และโรคถุงลมโป่งพอง และพบว่าคนไทยเสียชีวิตจากโรค NCDs ร้อยละ 75 ของอัตราการเสียชีวิตทั้งหมด และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ดังนั้น การทำให้คนลดพฤติกรรมการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ ถือเป็นการช่วยลดความเสี่ยงจากโรคกลุ่มนี้ได้
ทพ.สุปรีดา กล่าวถึงความยากในการขจัดช่องว่างระหว่างส่วนบริหารและประชาชนว่า เป็นเรื่องที่ยากมาก แต่จะต้องชื่นชมทางเทศบาลที่ทำได้ อาจเปรียบได้เหมือนช่วงแรกที่มีการทำโรงแรมปลอดบุหรี่ หลายฝ่ายก็มีความเห็นว่าจะส่งผลกระทบต่อการเข้าพัก แต่ผลสุดท้ายแล้วก็พิสูจน์ให้เห็นว่าไม่มีผลกระทบใด มากกว่านั้นคือนักท่องเที่ยวต่างเห็นด้วย และพร้อมใจกันให้ความร่วมมือ ในกรณีนี้ก็เช่นกัน เราจะต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าการท่องเที่ยวและการยกระดับคุณภาพชีวิตเป็นเรื่องที่ไปคู่กันได้ จึงอยากขอฝากเชิญชวนประชาชน มาสัมผัสหาดบางแสนรูปแบบใหม่ การยกระดับสถานที่ท่องเที่ยวที่สัมพันธ์กับคุณภาพชีวิตคนในท้องถิ่น
ขณะที่ นายณรงค์ชัย คุณปลื้ม นายกเทศมนตรีเมืองแสนสุข จ.ชลบุรี ผู้กำหนดนโยบายยกระดับหาดบางแสน กล่าวว่า ชายหาดบางแสนเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่มีชื่อเสียงของ จ.ชลบุรี เทศบาลเมืองแสนสุขได้มีการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยวและการทำมาหากินควบคู่กับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมีโครงการสำคัญคือ ชายหาดปลอดบุหรี่ ได้รับความร่วมมือจากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ร่วมกับ สสส. นิด้า และ ม.บูรพา เพื่อพัฒนาหาดบางแสนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวต้นแบบ ที่มีความปลอดภัยและปลอดปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพโดยเฉพาะเหล้า บุหรี่ ตนต้องทำความเข้าใจกับประชาชนก่อนว่าชายหาดบางแสนเป็นพื้นที่สาธารณะ โดยทางกฎหมายชายหาดสาธารณะ ไม่สามารถจำหน่ายหรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่ได้ อีกทั้งชายหาดบางแสนเป็น 1 ใน 20 หาด ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ประกาศให้เป็นพื้นที่ห้ามสูบหรี่
“เราได้รับร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวเรื่องการถูกรบกวนจากควันบุหรี่ และการดื่มสุราที่ทำให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้ง โดยสาเหตุของการเสียชีวิตจากการจมน้ำมีต้นเหตุมาจากการเมาสุรา ในการดำเนินงานนั้นจะต้องทำทีละขั้น โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยฉลามขาวหรือเทศกิจ ออกตรวจเวรยาม ตักเตือนนักท่องเที่ยวที่ทำผิด โดยส่วนมากเกิดจากความไม่รู้กฎหมาย” นายกเทศมนตรีเมืองแสนสุข กล่าว
นายณรงค์ชัย กล่าวถึงความยากง่ายในการทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการว่า เป็นเรื่องที่ยากมาก แต่เราจะต้องลงมือทำเพื่อให้เขาเห็นว่าทำไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้น สร้างความเข้าใจกับผู้ประกอบการว่าเทศบาลคืนพื้นที่ 2.3 กิโลเมตร ริมชายหาดให้ประชาชนมีสิทธิพักผ่อนอย่างปลอดภัย และตามกฎหมายแล้วไม่สามารถจำหน่ายแอลกอฮอล์หรือบุหรี่ได้ ในช่วงแรกก็มีบางกลุ่มที่ต่อต้าน แต่ก็ค่อยๆ ปรับกันมา ส่วนใหญ่แล้วเขาจะได้ยินจากปากของนักท่องเที่ยวเองว่า เปลี่ยนแล้วดีขึ้น หรือ น่าจะทำแบบนี้ตั้งนานแล้ว เหล่านี้ทำให้เกิดความเชื่อ ก่อให้เกิดความร่วมมืออย่างเข้าใจ
ฟังความคิดเห็นฝ่ายผู้ประกอบการ นางสุวิมล ศรีทองดี แม่ค้าร้านส้มตำรอรัก กล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับนโยบายของนายกเมืองบางแสน ทั้งนโยบายชายหาดปลอดแอลกอฮอล์ บุหรี่ และพื้นที่ปลอดเตียง ที่ได้เริ่มดำเนินมาร่วม 2 ปี เป็นนโยบายที่สร้างประโยชน์ให้แก่นักท่องเที่ยวโดยที่คนในท้องถิ่นต่างก็เห็นด้วย เนื่องจากเป็นการพัฒนาพื้นที่ให้เกิดความปลอดภัยและน่าอยู่ น่ามาท่องเที่ยวมากขึ้น แม้ว่ารายได้จากการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะหดหายไปบ้าง แต่จำนวนนักท่องเที่ยวกลับมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ เป็นช่วงฤดูน้ำใสของชายหาดบางแสน และยังเป็นช่วงปิดเทอมจึงทำให้มีประชาชนจากหลายพื้นที่หลั่งไหลเข้ามาท่องเที่ยวที่ชายหาดมากขึ้น ด้านการจัดสรรพื้นที่ของผู้ประกอบการ จะมีการกำหนดให้แต่ละร้านสามารถวางเตียงนอนได้ไม่เกิน 110 เตียง และจะต้องมีการจับสลากเปลี่ยนทำเลขายของทุกปี เพื่อหมุนเวียนให้แม่ค้าได้มาขายของในโซนขายดีบ้าง
”ตอนนี้ไม่มีขายแอลกอฮอล์แล้วรู้สึกดีมาก แม้รายได้จะหดหายไปเยอะ แต่ว่าเป็นสิ่งที่ดีให้กับท้องถิ่นของเรา เพราะไม่มีคนมึนเมาแล้วทะเลาะกัน ไม่เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน แม่ค้าด้วยกันเองก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี นักท่องเที่ยวก็เชื่อฟัง ทำให้พื้นที่ชายหาดน่าเข้ามาพักผ่อน คนมาเที่ยวส่วนใหญ่เป็นคนไทย ครอบครัวมีเด็กเล็กมาด้วย ก็ควรทำให้ชายหาดบางแสนเป็นพื้นที่ปลอดภัย แล้วยังมีนโยบายลดการใช้ถุงพลาสติก ดังนั้น ภาชนะที่เอามาใส่จะต้องเป็นชนิดย่อยสลายง่าย ต้นทุนอาจจะเพิ่มขึ้นแต่อยู่ในจุดที่เรารับได้ เพราะมีการควบคุมราคาอาหารต่างๆ เพื่อไม่ให้แพงเกินไปหรือตัดราคากันเอง และสำคัญที่สุดคือ นโยบายที่ไม่ให้แม่ค้าเข้าไปเร่ขายของในชายหาด เพื่อไม่ให้รบกวนการพักผ่อนของนักท่องเที่ยว และยังมีจุดปลอดเตียงอีก 8 จุดใหญ่ นักท่องเที่ยวสามารถนำอาหารสำเร็จรูปเข้ามารับประทานได้ แต่จะต้องดูแลเรื่องขยะอย่างเข้มงวด” นางสุวิมล กล่าว
ด้าน นายพัสวี พูนสะผล หนึ่งในนักท่องเที่ยวที่เลือกใช้วันหยุดมาพักผ่อนที่หาดบางแสน กล่าวว่า ตนพักอาศัยอยู่กรุงเทพฯ มีช่วงเวลาพักผ่อนระหว่างทำงานสั้นๆ แต่ก็เลือกมาพักผ่อนที่บางแสน และในครั้งนี้ได้เห็นความเปลี่ยนแปลง ยิ่งโดยเฉพาะช่วงที่น้ำทะเลใส ชายหาดจะสวยมากขึ้น และมีการตรวจคัดกรองอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าชายหาด และเว้นระยะห่างระหว่างเตียงชายหาด เพื่อป้องกันโควิด-19 มีประกาศเสียงตามสายเรื่องการจำกัดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ในพื้นที่ แต่จะมีการจัดพื้นที่ให้สูบบุหรี่โดยเฉพาะ
“ผมก็ไม่ได้รู้สึกว่าการจำกัดเรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือบุหรี่เป็นปัญหาอะไร เพราะทางพื้นที่ก็จัดจุดสูบบุหรี่ให้ อยากฝากถึงนักท่องเที่ยวว่า ตอนนี้บางแสนรณรงค์ไม่ให้มีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ เดี๋ยวนี้ก็มานั่งได้สบายใจไม่มีอะไรรบกวน ก็อยากให้ทุกคนมาลองเที่ยวกันเพราะเป็นสถานที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ เดินทางง่าย” นายพัสวี กล่าว
และทั้งหมดนี้ เป็นการพลิกโฉมชายหาดบางแสนให้เป็น ชายหาดแสนสุขใจ ใกล้กรุง ผลสำเร็จครั้งนี้ เกิดขึ้นจากความร่วมมือจากทั้งส่วนบริหาร ผู้ประกอบการและประชาชน ที่ผนึกกำลังกันจนเป็นการพัฒนาพื้นที่อย่างเข้มแข็ง ก้าวเข้าสู่การท่องเที่ยวที่ยั่งยืนต่อไป
