ดีเดย์! 7ธ.ค.ห้ามซื้อขายเหล้า-เบียร์ออนไลน์ สธ.ออกสโลแกนใหม่ ดื่มไม่ขับ

ดีเดย์! 7ธ.ค.ห้ามซื้อขายเหล้า-เบียร์ออนไลน์ สธ.ออกสโลแกนใหม่ ดื่มไม่ขับ

วันนี้ (27 พฤศจิกายน 2563) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่กระทรวงสาธารณสุข ว่า ที่ประชุมได้มีการรับทราบให้มีการจัดทำร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข

เรื่องแนวทางการปฏิบัติตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยวิธีการในลักษณะการขายทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2563 ซึ่งจะบังคับใช้วันที่ 7 ธันวาคมนี้ เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่า มีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทางออนไลน์จำนวนมาก แต่ยังเอาผิดผู้ที่มีการซื้อขายไม่ได้ เอาผิดได้แค่การโฆษณาเท่านั้น และสุราเถื่อนก็มักขายทางช่องทางนี้ จึงต้องจัดทำร่างตามประกาศเพื่อรองรับการบังคับใช้ต่อไป

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)

นายอนุทิน กล่าวว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีการหารือถึงมาตรการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งจะมีการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องทุกฉบับ อาทิ การห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับเด็กอายุต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด การดื่มไม่ขับ เป็นต้น

ทั้งนี้ จะต้องมีการรณรงค์อย่างเต็มที่เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ การบาดเจ็บ และเสียชีวิตในช่วงเทศกาลดังกล่าวให้มากที่สุด โดยขอความร่วมมือจากบุคลากรสาธารณสุข และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในการดูแลให้คำแนะนำ และห้ามปรามรวมถึงคัดกรองกันตั้งแต่เนิ่นๆ ซึ่งไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะต้องลดลงจากเทศกาลปีใหม่ปีที่ผ่านมาอย่างไร แต่จะทำให้เต็มที่ที่สุด เพื่อลดความสูญเสียให้มากที่สุด

Advertisement

“ปีนี้สโลแกนรณรงค์ของเราจะไม่ใช้คำว่า เมาไม่ขับ เพราะถ้าบอกว่าเมาไม่ขับ นั่นแปลว่าเขาต้องมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาแล้วไม่มากก็น้อย ดังนั้นปีนี้เราจะรณรงค์ ไม่ดื่ม ไม่ขับ ขับไม่ดื่ม หมายความว่า ถ้าดื่มจะต้องไม่ขับ แต่ถ้าต้องขับรถก็ต้องไม่ดื่ม โดยในช่วงที่ยังต้องเฝ้าระวังควบคุมป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 นั้น การคัดกรองไม่ให้มีการดื่มแล้วขับนั้นๆ ในส่วนของบุคลากรเราที่จะคัดกรองตั้งแต่ต้นทางนั้นจะไม่ได้ใช้วิธีการเป่าแอลกอฮอล์ เพราะต้องมีเครื่องมือ อีกทั้งยังมีเรื่องของลมหายใจอะไรต่างๆ ดังนั้นจะใช้วิธีทางคลินิกเพื่อดูว่ามีการดื่มเหล้ามาหรือไม่ อาทิ การสังเกต การทดสอบการทรงตัว การเอานิ้วอุดจมูก เป็นต้น” นายอนุทิน กล่าว

ด้าน นพ.นิพนธ์ ชินานนท์เวช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กล่าวถึงแผนยุทธศาสตร์นโยบายการควบคุมแอลกอฮอล์ระดับชาติ กรอบเวลา 7 ปี แผนระดับ 3 ของ สธ. ซึ่งสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่จะสิ้นสุดในปี 2570 ว่า ฉบับนี้จะเพิ่มเติมมาตรการป้องกันการเมาแล้วขับที่ชัดเจนมากขึ้น

“ครั้งนี้จะเปลี่ยนเป็น “ขับไม่ดื่ม ดื่มไม่ขับ” เนื่องจากการที่เราระบุว่า เมาไม่ขับ นั้น แสดงให้เห็นว่าเรายอมรับในการดื่มแอลกอฮอล์ ที่บางคนอาจจะบอกว่าดื่มแล้วแต่ไม่ถึงขั้นเมา ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ หากจะดื่มแอลกอฮอล์ก็จะต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการไม่ขับขี่รถเด็ดขาด อาจจะไปใช้ขนส่งมวลชนที่ให้บริการรับส่งแทนเพื่อความปลอดภัยทั้งต่อตนเองและผู้อื่น รวมถึงการบำบัดรักษาที่จะต้องดูแลผู้ที่ติดแอลกอฮอล์อยู่แล้ว โดยอาศัยกลไกของจังหวัดที่มากขึ้น การดำเนินการด้านภาษี มอบหมายให้กระทรวงการคลังพิจารณาขับเคลื่อนเรื่องนี้” นพ.นิพนธ์ กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม จะต้องป้องกันของการจำหน่ายเถื่อนที่เลี่ยงภาษีและใช้วิธีขายผ่านออนไลน์แทน แต่เราก็มีระบบตรวจสอบเพื่อแจ้งกับกรมสรรพสามิตเพราะเราเป็นพาร์ทเนอร์ในการบังคับใช้กฎหมาย

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image