อนุทิน ชี้ ลักลอบเข้าปท. ทำติดโควิด-19 ไม่ควรทำ เตรียมงัดกม.ทุกฉบับเล่นงาน

อนุทิน ชี้ ลักลอบเข้าปท. ทำติดโควิด-19 ‘เป็นเรื่องไม่ควรทำอยู่ที่จิตสำนึก’ เตรียมงัดกม.ทุกฉบับเล่นงาน ขอใส่หน้ากากป้องกัน

เมื่อเวลา 09.20 น. วันที่ 1 ธันวาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กรณีพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ว่า ขณะนี้ มีการตรวจซ้ำ เพื่อขยายผลให้มากที่สุด ซึ่งเรื่องนี้ไม่ควรเกิดขึ้น เป็นความเห็นแก่ตัวของคนไม่กี่คน ที่ทำความเดือดร้อนให้กับประชาชนคนไทย เนื่องจากเรามีการประกาศไม่รู้ต่อกี่ครั้งแล้ว ว่าห้ามเดินทางออกนอกประเทศ แต่ปรากฎว่ามีถึง 2-3 ราย หรือมากกว่ายังเดินทางเข้าออกเป็นว่าเล่นผ่านช่องทางธรรมชาติ ถือว่าผิดกฎหมาย และได้สั่งการไปที่สาธารณสุขจังหวัดให้ดำเนินคดีให้แรงที่สุด เพราะเป็นสิ่งที่ทำร้ายบ้านเมือง ไม่ควรสงสาร คนที่ทำความเดือดร้อน ทั้งที่เรากำลังจะเปิดประเทศ แต่ต้องมาทบทวนวิธีการผ่อนคลายใหม่

เมื่อถามว่า จะมีการจัดรถชีวนิรภัยพระราชทาน ไปตรวจในพื้นที่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เรามีการส่งไปตลอด แต่เพราะความเห็นแก่ตัวของคนไม่กี่คน ต้องทำให้เราเสียงบประมาณเพิ่มขึ้นมากมาย ทั้งที่ในความจริงหากกลับมาควรกักตัว แต่กลับไปเที่ยวห้าง กินหมูกะทะ ไปหลับนอนอะไรเยอะแยะไปหมด และพอป่วยแล้วก็ไม่กล้าบอกความจริง ขอชื่นชมตำรวจ และฝ่ายปกครอง ที่ไปตรวจสอบจากโทรศัพท์ถึงจะทราบว่าบุคคลดังกล่าว เดินทางไปที่ไหนมาบ้าง

ส่วนการดำเนินคดีนั้น จะใช้ทุกมาตรา อาทิ ลักลอบเข้าเมือง ผิดพระราชบัญญัติโรคติดต่อ ไม่ปฏิบัติตามกฎการกักตัว 14 วัน แม้กระทั่งโรงแรมที่ให้พักอาจเข้าข่ายผิดกฎหมายด้วย เพราะตามปกติหากมีคนแปลกๆ เข้ามาพักต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่รับทราบ โดยทางสาธารณสุขจังหวัด จะเป็นผู้นำเรื่องแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดให้เป็นเจ้าภาพในการแจ้งความ ร้องทุกข์ ดำเนินคดี หรือหากมีช่องทางให้ สธ. สามารถดำเนินคดีได้ ก็จะดำเนินการเอง

Advertisement

ขณะนี้ ได้ขยายผลตรวจสอบบุคคลใกล้ชิดไปบ้างแล้ว ซึ่งผลส่วนใหญ่ออกมาเป็นลบ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือบุคคลที่สัมผัสผู้ติดเชื้อทั้ง 3 คนนี้ ให้มาหาเรา อย่าให้เราต้องไปตาม เพื่อที่จะได้ตรวจหาเชื้อ และสร้างความมั่นใจให้กับสังคม โดยขณะนี้เราทำงานตรวจเชิงรุกอย่างเต็มที่ เป็นเรื่องน่าเสียดายที่เราต้องสูญเสียทรัพยากรมากมายมหาศาล ที่ต้องไปทำให้สถานการณ์เรียบร้อย ทั้งที่เกิดจากการกระทำของคนเห็นแก่ตัวไม่กี่คน

เมื่อถามว่า หากมีการตรวจสอบพบผู้ป่วยเพิ่ม จำเป็นต้องปิดจังหวัดเชียงใหม่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า คิดว่า ควรไปตรวจสอบที่ช่องทางธรรมชาติ ตะเข็บชายแดนต่างๆ เพราะตามด่านนั้นไม่มีปัญหา และไม่มีทางหลุดรอดได้แน่นอน เหมือนกับที่สุวรรณภูมิ และดอนเมือง ที่ไม่มีการหลุดออกไปเลย แต่กรณีที่ลักลอบเข้ามาผ่านป่า ผ่านห้วย ลำคลอง เข้ามาทำไม่ได้ และไม่ควรทำ เป็นเรื่องของจิตสำนึก

ถามต่อว่า จะสร้างความมั่นใจให้ประชาชนได้อย่างไร เนื่องจากช่วงนี้เป็นฤดูท่องเที่ยว นายอนุทิน กล่าวว่า เอาเป็นว่าขอให้ใส่หน้ากากอนามัย อย่าไปตกใจกับสิ่งเหล่านี้ เพราะสถานการณ์ตอนนี้ไม่เหมือนกับตอนที่ระบาดใหม่ๆ วันนี้เราเข้าใจสถานการณ์ของโรคเป็นอย่างดี การตรวจสอบ ป้องกัน และควบคุมเราทำได้ดี และที่สำคัญเรามียา เวชภัณฑ์พร้อม และโดยปกติถ้าเรามีสุขภาพแข็งแรงโรคนี้ก็ทำอะไรเราไม่ได้ ดังนั้น อย่ากังวลจนเกินเหตุ ขณะนี้เรามีความพร้อมเป็นอย่างมาก และที่ผ่านมาเราคาดการณ์กันไว้แล้ว แต่ไม่คิดว่าจะเกิดกับคนไทยด้วยกันเอง แต่ไม่เป็นไร เรื่องชีวิตและสุขภาพเราต้องดูแลกันทุกคน

Advertisement

โดยในวันนี้ เวลา 13.00 น. นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขตสุขภาพที่ 1 และ นพ.โสภณเอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป แถลงความคืบหน้าการติดตามผู้สัมผัส กรณีพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ จ.เชียงใหม่และเชียงราย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image