อว.จัดนิทรรศการ “งานของพ่อ”ตลอด ธ.ค. รัฐมนตรี อว. ระบุ พระมหากษัตริย์และชาติไทย ไม่เคยล้าหลัง

อว.จัดนิทรรศการ “งานของพ่อ” เทิดพระเกียรติ รัชกาลที่ 9 ตลอดเดือน ธ.ค.ด้าน “เอนก เหล่าธรรมทัศน์” ระบุ พระมหากษัตริย์และชาติไทยที่ไม่เคยล้าหลัง

เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม กระทรวงกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม(อว.) จัดนิทรรศการ “งานของพ่อ” นำเสนอหลักการทรงงานของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ภายใต้แนวความคิดและเทคนิควิชาการด้านวิทยาศาสตร์ที่สมเหตุสมผล และสามารถแก้ไขปัญหาก่อให้เกิดประโยชน์ได้จริง ตลอดจนมุ่งไปสู่วิถีแห่ง การพัฒนาที่ยั่งยืน ที่อาคารจามจุรีสแควร์ สามย่าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนส่วนใหญ่พร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีเหลือง มาชมนิทรรศการจำนวนมาก โดยนิทรรศการชุดนี้จะจัดแสดงไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 09:00 – 18:00 น.

ศ.ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.อว.กล่าวว่า พระมหากษัตริย์และชาติไทยที่ไม่เคยล้าหลัง ประเทศไทยมีพระมหากษัตริย์ที่มีพระปรีชาญาณ ที่ทรงรู้ทั้งไทย ทั้งต่างประเทศ ทรงเข้าใจทั้งเรื่องในประเทศ และเรื่องของโลก ประเทศไทยจึงแทบจะไม่เคยล้าสมัย อยู่ในกระแสโลกตลอด เอาของดีและวิทยาการทั้งไทยและต่างประเทศมาผสมผสานกัน เราอยู่ในโลกอย่างดี อย่างที่ภาคภูมิใจด้วยที่เราเป็นไทยด้วย ได้เสมอมา ล้นเกล้ารัชกาลที่ 9 ทรงพระราชสมภพในดินแดนตะวันตก ที่เรียกว่าโลกใหม่ คือในสหรัฐอเมริกา ทรงศึกษาแต่ทรงพระเยาว์จนถึงชั้นมหาวิทยาลัยที่โลซาน สวิสเซอร์แลนด์ ทรงใช้ภาษาฝรั่งเศส อังกฤษ และเยอรมันได้เป็นอย่างดี ทรงคิดค้นเศรษฐกิจพอเพียงจนได้รับการยอมรับจากคนทั้งโลก

รม.อว.กล่าวต่อว่า ประเทศไทย นับคร่าวๆ เป็นเอกราชมาร่วม 7-800 ปี อาจไม่นำหน้าในเอเชียหรือในโลก แต่เราก็ไม่เคยล้าหลังใคร หากเดินตาม และ ประยุกต์เข้ากับอารยธรรมที่ดีเลิศของเอเชีย และของโลกได้ทันเสมอ อย่างน่าทึ่ง

Advertisement

“สมเด็จพระนารายณ์ เมื่อกว่าสามร้อยปีมาแล้ว มีพระดำริให้ขุดคอคอดกระ ขยายคลองกระให้เรือเดินสะดวก ซึ่งแม้เราในทุกวันนี้ก็ยังไม่กล้าขุด สมเด็จพระนเรศวรเมื่อกว่าสี่ร้อยปีที่แล้ว นอกจากจะรบชนะพม่าอย่างเด็ดขาดแล้ว ยังทรงดำเนินการทูตที่เฉียบแหลม ด้วยทรงเห็นว่าจีนกับญี่ปุ่น มหาอำนาจทางโลกตะวันออก กำลังขัดแย้งกัน แย่งชิงเกาหลี ไว้ในอิทธิพล ทรงเล็งเห็นว่าจีนนั้นน่าจะเอาชนะญี่ปุ่น จึงเสนอต่อจีนว่าจะส่งช้างพันเชือกไปช่วยรบ น่าจะทรงเล็งว่า หากเราเข้าข้างจีนผู้ชนะ หลังจากเสร็จศึกนั้น เราอาจจะขอสิทธิพิเศษทางการค้าจากจีน ได้ มิพักต้องพูดถึงพระมหากษัตริย์แห่งรัตนโกสินทร์ ล้นเกล้ารัชกาลที่ 4 ทรงคำนวนวันเวลานาทีที่จะเกิดสุริยุปราคาได้อย่างแม่นยำ ส่วนล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 ทรงส่งพระราชโอรสจำนวนมากไปเรียนต่อในยุโรป มากมายหลายประเทศ ขณะที่ล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 ทรงศึกษาที่ มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ส่วนล้นเกล้ารัชกาลที่ 7 ทรงศึกษาที่อีตันและที่โรงเรียนนายร้อยแซนด์เฮิร์สท ทั้งสองพระองค์เสด็จไปศึกษาในอังกฤษตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ความรู้ความเข้าใจพระองค์ท่านต่อศาสตร์และวิถีชีวิตตะวันตก เมื่อพิจารณาเช่นนี้ น่าจะแตกฉานและลึกซึ้งเสียยิ่งกว่าของผู้นำคณะราษฎรเสียอีก เพราะพวกหลังนี้ไปเรียนนอกกันเมื่อโตแล้วทั้งสิ้น ล้นเกล้ารัชกาลที่ 8 ทรงพระราชสมภพนอกประเทศเสียด้วยซ้ำ คือที่เยอรมัน ส่วนในหลวงรัชกาลปัจจุบัน ทรงเข้าศึกษาในชั้นมัธยมที่อังกฤษ และวิชาทหารที่ออสเตรเลีย”รัฐมนตรีอว. กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image