อนุทิน ตัดริบบิ้นเปิดสายการผลิตหน้ากากอนามัย เปิดตัว ปลัดดุ๊ก ขึ้นแท่นประธาน อภ.คนใหม่

อนุทิน ตัดริบบิ้นเปิดสายการผลิตหน้ากากอนามัย เปิดตัว ปลัดดุ๊ก ขึ้นแท่นประธาน อภ.คนใหม่

วันนี้ (16 ธันวาคม) ที่องค์การเภสัชกรรม (อภ.) คลอง 10 จ.ปทุมธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด สธ. นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการ อภ. และผู้บริหาร สธ. ร่วมเปิด “สายการผลิตหน้ากากอนามัย เพื่อความมั่นคงทางการแพทย์”

นายอนุทิน กล่าวว่า ในสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ทั่วโลกยังมีการระบาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดความต้องการใช้หน้ากากจากเดิม 30-40 ล้านชิ้นต่อเดือน ก็เพิ่มสูงมากขึ้นถึง 5 เท่า หรือประมาณ 200 ล้านชิ้นต่อเดือน โดยที่ผ่านมามีการขาดแคลนหน้ากากอนามัยและหาซื้อได้ยาก จึงทำให้อภ.ดำเนินการผลิตหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ที่มีคุณภาพตามมาตรฐานการผลิตอุตสาหกรรม (มอก.)หน้ากากใช้ครั้งเดียว ซึ่งอิงตามมาตรฐาน ASTM F2100-11 ของประเทศอเมริกา เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์มีหน้ากากอนามัยที่มีคุณภาพใช้อย่างเพียงพอ โดยกระจายให้กับโรงพยาบาลภาครัฐและบางส่วนจำหน่ายให้แก่ประชาชนผ่านร้านขายยาทาง 8 สาขา และร้านค้าออนไลน์ของ อภ. เพื่อให้คนไทยได้ใช้หน้ากากอนามัยที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน เนื่องจากการสวมหน้ากากอนามัยจะช่วยป้องกันการรับและแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 ซึ่งมีการพิสูจน์แล้วว่าการสวมหน้ากากอนามัยเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันโรคโควิด-19 และโรคระบบทางเดินหายใจอีกหลายโรค จนทำให้คนไทยสามารถควบคุมสถานการณ์การระบาดให้อยู่ในระดับที่ต่ำจนเป็นที่ยอมรับขององค์การอนามัยโลก ซึ่งมาจากความร่วมมือของประชาชนรวมทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน

“ที่ผ่านมา เจ็บใจมาก ที่การระบาดโควิด-19 ทำให้มีคนเห็นแกตัวเอาหน้ากากอนามัยมาขายเกินราคา และที่สำคัญหน้ากากอนามัยควรอยู่ในกล่อง บรรจุ 50-100 ชิ้น แต่กลับไปอยู่ในถุงพลาสติก ถุงละใบ ต้องใช้เงินจำนวนมากในการซื้อ ทำให้ชื่อเสียง สธ. ต้องมัวหมองไปด้วย สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป เราต้องใช้โควิด-19 สร้างโอกาสให้กับ สธ.ให้ได้ โดยในสัปดาห์นี้จะมีการเปลี่ยนแปลงส่วนของคณะกรรมการ อภ. ซึ่งคนที่จะมาเป็นประธานบอร์ดไม่ใช่ใครที่ไหน ก็เป็นท่านปลัด สธ. ทั้งนี้ เพื่อการดำเนินงานภายในได้อย่างต่อเนื่อง” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวว่า หวังอย่างสูงสุดว่า อภ. และ สธ. จะเป็นผู้ตรึงราคาหน้ากากอนามัย และป้องกันไม่ให้เกิดการกักตุนในช่วงสภาวะที่ขาดแคลน มีการสำรองสินค้าเพื่อแจกจ่ายประชาชนได้เป็นอย่างดี และในอนาคต อภ. ก็จะมีการผลิตหน้ากากอนามัยชนิด N95 ก็ขอให้สิ่งเหล่านี้ดำเนินต่อไปเพราะอย่างไรก็ตามไม่มีวันชะงัก เนื่องจากหน้ากากอนามัยจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของประชาชน ในขณะเดียวกัน อภ.ก็ได้สั่งซื้อสารตั้งต้น (ABI) ในการผลิตยาฟาวิพิราเวียในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 รายที่ไม่มีอาการแทรกซ้อน ซึ่งผลของการใช้ยานั้นสามารถรักษาได้ 100% อยู่ในระหว่างขั้นของการทดลองสรรพคุณและรอให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ตรวจสอบมาตรฐานเพื่ออนุมัติในการผลิตต่อไป

Advertisement

ด้าน นพ.วิฑูรย์ กล่าวว่า สายการผลิตหน้ากากอนามัยของ อภ. ได้รับอนุญาตจากกองเครื่องมือแพทย์ อย. ให้เป็นสถานที่ผลิตเครื่องมือแพทย์ประเภท หน้ากากอนามัยทางการแพทย์แบบใช้ครั้งเดียว มาตรฐานการป้องกันระดับที่ 1 สำหรับใช้ในสถานพยาบาลทั่วไป คุณสมบัติป้องกันอนุภาคปนเปื้อนชนิดต่างๆ ที่อยู่ในอากาศ โดยในระยะแรกมีกำลังการผลิตประมาณ 800,000-1,000,000 ชิ้นต่อเดือน หรือ ประมาณ 10 ล้านชิ้นต่อปี สำหรับแผนในระยะถัดไปจะผลิตหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ที่มีมาตรฐานสูงขึ้น ชนิดมาตรฐานการป้องกันระดับที่ 2 เพื่อใช้ในหน่วยฉุกเฉิน ทันตกรรม การรักษาแผลขนาดเล็กหรือการรักษาที่อาจมีการสัมผัสเลือดเล็กน้อย มีความสามารถในการกรองแบคทีเรียและกรองอนุภาคขนาดเล็กกว่า 0.1 ไมครอน ได้ถึงร้อยละ 98 และสามารถต้านทานของเหลวซึมผ่านได้ที่ความดันน้อยที่สุด 120 มิลลิเมตรปรอท เพื่อเป็นทางเลือกในการใช้งานให้เหมาะสม

“นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมสำหรับขยายกำลังการผลิต โดยร่วมมือกับภาคเอกชนในประเทศเพื่อผลิตหน้ากากอนามัยภายใต้มาตรฐานคุณภาพคุณสมบัติเดียวกันกับ อภ. เพื่อสร้างความมั่นคง ความมั่นใจให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และประชาชนว่า จะมีหน้ากากอนามัยสำหรับใช้งานอย่างเพียงพอในราคาที่สามารถเข้าถึงได้เหมาะสมกับมาตรฐานคุณภาพการแพทย์ที่ประชาชนจะได้รับ” นพ.วิฑูรย์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image