คนไทยการ์ดสูงขึ้น 93.3% กรมอนามัยย้ำ ปชช.ใช้ขนส่งสาธารณะต้องเข้มสกัดโควิด-19 

คนไทยการ์ดสูงขึ้น 93.3% กรมอนามัยย้ำ ปชช.ใช้ขนส่งสาธารณะต้องเข้มสกัดโควิด-19

วันนี้ (2 มกราคม) ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย แถลงถึงผลสำรวจพฤติกรรมการสวมหน้ากากอนามัยของประชาชน เพื่อป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ว่าในการสำรวจอัตราการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาภาพรวมของประเทศเพิ่มขึ้น จาก ครั้งที่ 1 สำรวจระหว่างวันที่ 9-13 พฤศจิกายน 2563 ร้อยละ 85.3 ครั้งที่ 2 สำรวจวันที่ 23-27 พฤศจิกายน ร้อยละ 81.2 ครั้งที่ 3 สำรวจวันที่ 7-11 ธันวาคม ร้อยละ 86.2 ครั้งที่ 4 สำรวจวันที่ 21-25 ธันวาคม ร้อยละ 90.4 และ ครั้งที่ 5 สำรวจวันที่ 28 ธันวาคม-วันที่ 2 มกราคม 2564 เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 93.3 แต่ก็ยังไม่ถึงร้อยละ 95 ซึ่งเป้าหมายอยู่ที่ 100% ขณะที่อัตราการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาขณะใช้บริการขนส่งสาธารณะ เพียงร้อยละ 73.4 ซึ่งถือว่าค่อนข้างน้อยพอสมควร

นพ.สราวุฒิกล่าวว่า คำแนะนำของผู้ที่ต้องเดินทาง คือ 1.ตรวจสอบอาการตนเองว่ามีอาการไข้ ตัวร้อน เจ็บคอ ไอ เหนื่อย หายใจลำบาก ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ท้องเสีย จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส หรือไปพื้นที่เสี่ยงมาก็ควรชะลอการเดินทาง แต่ส่วนที่เดินทางแล้วให้เตรียมหน้ากากอนามัย หน้ากากผ้าสำรองไว้หลายชิ้น พร้อมเตรียมกระทิชชู ยาประจำตัวและเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ อย่างไรก็ตาม ในระหว่างเดินทางจะต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือด้วยน้ำสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์บ่อยๆ เว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1-2 เมตร ไม่ควรใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น ไม่ตะโกนเสียงดังและเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า จมูก ปาก ตา

“ในส่วนของการเดินทางด้วยเครื่องบิน จะต้องลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่นไทยชนะ และยืนยันตัวตนจากบัตรประชาชนหรือบอร์ดดิ่งพาส และขอให้ประชาชนเน้นย้ำปฏิบัติโดยทั่วกัน โดยระหว่างที่เดินทางให้ผู้เดินทางเก็บไทม์ไลน์ของตนเองเพื่อประโยชน์ในการควบคุมโรค ที่สำคัญจะต้องเน้นย้ำการเช็กอินไทยชนะ” นพ.สราวุฒิกล่าว

ทั้งนี้ นพ.สราวุฒิกล่าวว่า เมื่อเดินทางถึงบ้านให้ถอดรองเท้าไว้นอกบ้าน ทำความสะอาดก่อนเก็บ ทิ้งหน้ากากอนามัยใช้แล้วใส่ถุงก่อนทิ้งขยะที่มีฝาปิด ล้างมือด้วยน้ำสบู่ก่อนสัมผัสสิ่งของในบ้าน โดยเฉพาะจุดสัมผัสร่วม อาบน้ำชำระร่างกายทันที ทำความสะอาดของใช้ส่วนตัว หากกลับจากพื้นที่เสี่ยง ให้รักษาระยะห่างจากสมาชิกคนอื่นในบ้าน สังเกตอาการตนเองหากมีไข้ ไอ จาม เหนื่อย หอบ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรสให้รีบไปพบแพทย์ทันที

Advertisement

นพ.สราวุฒิกล่าวว่า ในส่วนของผู้ประกอบการ ท่ารถต่างๆ ขอเน้นย้ำเรื่องการทำความสะอาดพื้นที่ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ เช่น พื้นที่ส่วนกลาง จุดสัมผัสร่วม เก้าอี้นั่ง ประตู ห้องน้ำ คัดกรองพนักงานและผู้โดยสารอย่างเคร่งครัด ประชาสัมพันธ์ เฝ้าระวัง สอดส่องผู้โดยสารให้ปฏิบัติตามมาตรการ มีจุดล้างมือบริการที่เพียงพอ จัดที่รอคอยให้เป็นตามมาตรการเว้นระยะห่าง จัดระบบระบายอากาศที่เพียงพอ กรณีมีเครื่องปรับอากาศให้ปิดเพื่อรับอากาศจากภายนอกเข้ามาวันละอย่างน้อย 2 ครั้ง และจัดถังให้เพียงพอ โดยมีฝาปิดมิดชิด

“ยานพาหนะ ให้ผู้โดยสารสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา คัดกรองและมีบริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ลงทะเบียนผ่านไทยชนะ เปิดประตูระบายอากาศให้บ่อย จัดที่นั่งไม่ให้แน่นหนาเกินไป” นพ.สราวุฒิ กล่าว และว่า หากผู้ไม่ได้กลับบ้าน ก็แนะนำให้ติดต่อกับครอบครัวผ่านเทคโนโลยี แทนการพบปะกัน

ส่วนของพื้นที่ตลาดทุกแห่ง นพ.สราวุฒิกล่าวว่า กรมอนามัยได้ลงพื้นที่ เน้นย้ำว่าให้มีการสวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่ตลาด 100% คัดกรองผู้เข้าใช้บริการ รวมถึงลงทะเบียนไทยชนะ การดำเนินงานกรมอนามัยในการล้างตลาดทั่วไทยไล่ Covid-19 ข้อมูลเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2563 ส่วนใหญ่ดำเนินการตามแผนที่วางไว้ แต่มีเรื่องของการสัมผัสอาหารโดยตรงและการสวมหน้ากากอนามัย ที่ยังเป็นประเด็นอาจทำให้มีการแพร่กระจายเชื้อส่วนนั้นได้ จึงอยากให้มีความเข้มงวดและเน้นให้มากขึ้น ทั้งนี้ กรมอนามัยมีแพลตฟอร์ม Thai Stop COVID-19 ให้ผู้ประกอบการเข้าไปดูมาตรฐานของร้านอาหารต่างๆ ได้

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image