แพทย์ขอขาพนันทุกวง สังเกตตัวเอง 14 วัน ย้ำ! บอกความจริง ชี้มาตรการคุมต้องสั่งปิดอย่างเดียว

แพทย์ขอขาพนันทุกวง สังเกตตัวเอง 14 วัน ย้ำ! บอกความจริง ชี้มาตรการคุมต้องสั่งปิดอย่างเดียว

วันนี้ (5 มกราคม 2564) ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ ) นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 กรณีผู้เกี่ยวของกับพื้นที่เสี่ยง เช่น ในบ่อนการพนัน สถานบันเทิง ว่า กรณีที่เชื่อม จ.ระยอง มีผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น เข้าสถานที่การพนัน บ่อนไก่และฟิตเนส การพบผู้ป่วย อายุ 33 ปี จ.ลำปาง มีประวัติเดินทางจากระยอง มีโอกาสไปใช้บริการฟิตเนสแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้สัมผัสผู้ป่วยยืนยันที่อยู่ในระยอง และเดินทางมายัง จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 25 ธันวาคม มีการดื่มแอลกอฮอล์ร่วมกับเพื่อ 3 ราย ซึ่งภายหลังมี 2 ราย ใน 3 รายตรวจพบเชื้อ แต่ยังไม่พบการติดเชื้อเพิ่มเติม กรณีนี้มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงประมาณ 64 ราย และเสี่ยงต่ำอีกจำนวนหนึ่ง คำแนะนำสำหรับผู้สัมผัสเสี่ยงสูงคือ เฝ้าสังเกตอาการจนครบ 14 วัน ในระหว่างนี้เลี่ยงการคลุกคลีกับผู้อื่น และต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือ เว้นระยะห่าง แยกของเครื่องใช้และภาชนะอาหาร ทั้งนี้ ต้องตรวจหาเชื้ออย่างน้อย 2 ครั้ง กลุ่มผู้เสี่ยงต่ำก็ปฏิบัติคล้ายกัน

นพ.โสภณ กล่าวว่า กรณีการระบาดในสถานบันเทิง ร้านอาหารย่านปิ่นเกล้า กรุงเทพมหานคร จากเหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ที่ได้รายงานไปแล้ว โดยวันนี้มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 27 ราย รวมเป็น 82 ราย พบในกรุงเทพฯ และปริมณฑลจำนวนหนึ่ง เมื่อสอบสวนต่อเนื่องยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากธรรมชาติของผู้ไปสถานบันเทิงจะไปมากกว่าหนึ่งแห่ง บางครั้งผู้ทำงานในสถานบันเทิง เช่น นักร้องไปทำงานหลายร้าน จึงมีโอกาสแพร่เชื้อระหว่างผู้ให้และผู้รับบริการในสถานบันเทิงหลายแห่ง ขณะที่ กรณีการพบผู้ป่วย 2 ราย ใน จ.กาญจนบุรี ทำงานในสถานบันเทิงในย่านปิ่นเกล้าและมีประวัติเล่นการพนัน เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม เดินทางกลับบ้านที่ท่ามะกา เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม เข้าร่วมงานปีใหม่ที่ จ.ราชบุรี เมื่อวันที่ 1- 2 มกราคม พักอาศัยอยู่กับครอบครัว ต่อมาวันที่ 3 มกราคม ช่วงเช้าเดินทางกลับบ้านที่ จ.กาญจนบุรี โดยไม่สวมหน้ากากอนามัย ช่วงบ่ายอยู่ที่บ้านกับครอบครัว เริ่มมีอาการจมูกไม่ได้กลิ่น จึงไปขอรับการตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาล ผลพบว่าติดเชื้อ

นพ.โสภณ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ติดเชื้อในสนามไก่ชน จ.อ่างทอง พบผู้ป่วยใน จ.อ่างทอง 39 ราย จ.สิงห์บุรี 4 ราย จ.พระนครศรีอยุธยา 2 ราย จ.ลพบุรี 1 ราย และ จ.สุพรรณบุรี 1 ราย ซึ่งโดยธรรมชาติมีโอกาสได้รับเชื้อจากการตะโกนเชียร์และบางคนไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย รวมถึงใช้เวลารวมกันมากกว่าชั่วโมง หากมีผู้ติดเชื้อหลุดไป 1 ราย ก็สามารถแพร่ต่อได้ ดังนั้นขอให้ผู้มีประวัติเสี่ยงหรือมีความเสี่ยงในสถานที่ดังกล่าว อาจจะไม่ใช่แห่งนี้ แต่เป็นแห่งอื่นรวมทั้งคนที่ใกล้ชิดกับผู้ที่ไปสนามชนไก่ให้สังเกตอาการตนเอง 14 วัน และหากพบอาการ เมื่อไปรักษาให้แจ้งประวัติให้เจ้าหน้าที่รับทราบด้วย

“มีข้อมูลเพิ่มขึ้นว่าขณะนี้มีผู้เกี่ยวข้องกับสถานพนันจำนวนหลายกรณี และบ่อยครั้งผู้ที่มาตรวจรักษาให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน แต่มีการทราบข้อมูลในภายหลัง จึงขอให้ประชาชนที่มีโอกาสเข้าไปในบ่อนการพนันหรือสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ไปบ่อนการพนัน ทราบว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของการติดโควิด-19 ในระยะนี้ ขอให้ผู้มีอาการป่วยและมีประวัติดังกล่าวให้ข้อมูลเป็นจริงกับเจ้าหน้าที่ สังเกตอาการตนเอง 14 วัน เมื่อครบแล้วจะถือว่าปลอดภัย แต่ถ้ามีอาการป่วยขอให้ไปรับการตรวจที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน โดยสวมหน้ากากอนามัยและเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว” นพ.โสภณ กล่าว

Advertisement

ผู้สื่อข่าวถามถึงมาตรการควบคุมโรคในสถานเล่นพนันและสถานบันเทิง นพ.โสภณ กล่าว่า สธ.ทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่น เพื่อตรวจตราการกระทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นสถานที่ที่คนทั่วไปไม่รับทราบ ยกเว้นแต่ผู้ที่อยู่ในกลุ่มผู้เล่นหรือทำงานในสถานที่ดังกล่าว ดังนั้นการที่จะไปทำการเฝ้าระวังติดตามจึงเป็นเรื่องยาก ดีที่สุดคือต้องปิดหรืองดการไปในสถานที่เหล่านั้นในช่วงเวลานี้ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ที่ไปมาก่อนที่จะมีการปิด และหากสงสัยว่า ตนเองเป็นผู้มีความเสี่ยงก็สามารถเข้ารับคำแนะนำจากโรงพยาบาลใกล้บ้านได้หรือโทรสอบสายด่วน 1422 และขอให้สังเกตอาการตนเอง 14 วัน โดยนับจากวันสุดท้ายที่เข้าสถานที่ดังกล่าว ขณะที่มีความน่าเป็นห่วงคือตนเองไม่ได้ไป แต่มีเพื่อนร่วมงานหรือคนในครอบครัวไป ก็ต้องมีการเฝ้าระวังสังเกตอาการตัวเองเช่นกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image