| ที่มา | หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน หน้า 20 |
|---|---|
| เผยแพร่ |
พส.ตั้งเป้าปี 64 ทำงานเชิงรุก ช่วยคนจนถึงบ้าน ติดตามตลอดรอดฝั่ง
นายสุทธิ จันทรวงษ์ อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า พส.มีภารกิจในการช่วยเหลือดูแลกลุ่มคนจนและผู้มีรายได้น้อย ประมาณ 6 ล้านครัวเรือน หรือประมาณ 9.5 ล้านคน รวมถึงคนขอทาน มีประมาณ 5 พันกว่าคนทั่วประเทศ และคนไร้ที่พึ่ง ประมาณ 7.8 หมื่นคน เดิมเราช่วยเหลือด้วยการให้เงินสงเคราะห์ 2-3 พันบาทต่อรายต่อคน ช่วยได้ไม่เกิน 3 ครั้งต่อปี เป็นเพียงการบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้า แต่ไม่มีความยั่นยืน เราจึงมองเรื่องการช่วยเหลือที่ยั่งยืน ที่จะทำอย่างไรให้ผู้ได้รับการช่วยเหลือสามารถพึ่งพาตนเองได้มากขึ้น ในปี 2564 จึงเปลี่ยนวิธีการทำงานใหม่ เป็นการทำงานเชิงรุก ไม่ต้องรอให้กลุ่มเป้าหมายที่ประสบปัญหาเดินมาหา แต่เรารุกลงพื้นที่ไปให้การช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเสี่ยงก่อน จากฐานข้อมูลที่มี
จากนั้นจะมีการติดตามหลังการช่วยเหลือเคส ว่าหลังจากเงินสงเคราะห์ 2-3 พันบาท ชีวิตเขาดีขึ้นหรือเปล่า หากยังไม่ดีขึ้นจะสามารถช่วยเหลือต่อได้อย่างไร โดยมีทีมสหวิชาชีพเข้าไปประเมินและช่วยเหลือ เช่น ไม่มีทักษะอาชีพ ก็จะประสานกระทรวงแรงงานให้ หรือเข้าไม่ถึงการศึกษาและบริการสาธารณสุข ก็จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ เป็นเสมือนพี่เลี้ยงเคส
อธิบดี พส. กล่าวอีกว่า ในปี 2564 เรายังนำระบบไอทีเข้ามาช่วยปฏิบัติงาน จะทำให้การให้ความช่วยเหลือรวดเร็วขึ้น จากเดิมเคสต้องมาขอความช่วยเหลือกับศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ศาลากลางจังหวัด กว่าจะรับเรื่อง กว่าจะส่งเจ้าหน้าที่ลงไปสอบข้อเท็จจริงเคส อาจใช้เวลานาน แต่จากนี้คือ ใครก็ได้ จะเป็นตัวเคสหรือที่เห็นเคส สามารถแจ้งขอความช่วยเหลือเข้ามาที่แอพพลิเคชั่น ซึ่งขณะนี้อยู่ใขั้นตอนการออกแบบ คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาสแรกของปี 2564 ในแอพพ์จะให้พิมพ์ข้อมูลเสมือนการกรอกคำร้อง และรับรองข้อมูลว่าเป็นความจริง ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ช่วยเหลือเคสได้เร็วขึ้น และยังสามารถตรวจสอบได้ทันที ว่าการช่วยเหลืออยู่ในขั้นตอนไหนแล้ว เพียงกรอกเลขบัตรประชาชน 13 หลักของเคส
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จะทำให้เกิดตรงนี้ได้ คาดหวังไปที่อาสาพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ซึ่งปี 2564 ตั้งเป้าจะเพิ่มให้ได้ 5 แสนคน จะเป็นกลไกหลัก ในการลงพื้นที่เฝ้าระวัง แจ้งเหตุ และประสานทีมวันโฮม พส. ทีมวันโฮม พม. และทีมวันโฮมกระทรวงด้านสังคม เข้าช่วยเหลือดูแล และติดตามจนกว่าผู้ประสบปัญหา จะสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติ
