โควิด-19 รอบใหม่ ทำคนไทยเครียด! เท่ารอบแรก สธ.แนะต้องมีวัคซีนใจ 3 เข็ม

โควิด-19 รอบใหม่ ทำคนไทยเครียด! เท่ารอบแรก สธ.แนะต้องมีวัคซีนใจ 3 เข็ม

เมื่อวันที่ 7 มกราคม ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงสถานการณ์ความเครียดของคนไทยต่อการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ว่า จากการสำรวจสุขภาพจิตคนไทยในปี 2563 พบว่า ในเดือนมีนาคมที่เป็นการระบาดรอบแรก คนไทยมีความเครียดมากกว่าปกติสูงสุดในรอบปี อยู่ในระดับ 4 กว่าๆ จากนั้นค่อยๆ ลดลงมาตามสถานการณ์ของโรค จนเมื่อสิ้นปีลดลงมาอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างน่าพอใจ แต่เมื่อเข้าปี 2564 พบว่า ตามสถานการณ์การระบาด ภาวะเครียดของประชาชนกลับขึ้นมาจากระดับ 1 เป็น 2 และกลับมาถึงระดับ 4 อีกครั้ง

พญ.พรรณพิมล กล่าวว่า ขณะที่ปี 2564 มีรายงานอีกชุดคือ ความตื่นตระหนกของประชาชนไทย พบว่า ช่วงต้นเดือนธันวาคม สถานการณ์ใน จ.เชียงใหม่ จ.เชียงราย ระดับความตระหนกสูง แต่ช่วงปลายเดือนมีการเพิ่มสูงขึ้นใน จ.สมุทรสาคร เมื่อเข้าไปดูรายละเอียด พบว่า มีความกังวลใจว่าตนเองมีโอกาสติดเชื้อ เพราะรับทราบว่ามีผู้ติดเชื้อในพื้นที่ ความกังวลใจที่จะออกนอกบ้าน และเรื่องเตรียมอุปกรณ์ป้องกัน เช่น หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ทั้งนี้ อยากให้นำความกังวลใจมาเปลี่ยนเป็นการปฏิบัติตัวให้สอดคล้องสถานการณ์

พญ.พรรณพิมล กล่าวว่า ในการสำรวจพลังใจ อึด ฮึด สู้กับสถานการณ์ พบว่า ประชาชนในภาพรวมยังมีมุมมองอยากเอาชนะอุปสรรคในครั้งนี้ให้ได้ และสิ่งสำคัญที่จะช่วยต่อสู้กับสถานการณ์นี้คือการพูดคุยกับคนใกล้ชิด ดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน เป็นพลังใจให้กับทุกคน จึงอยากเชิญชวนให้ทุกคนเตรียมทั้งร่างกาย และจิตใจให้พร้อม มีภูมิคุ้มกันทั้งร่างกายและจิตใจ

“วัคซีนใจสามารถทำให้เราเผชิญกับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงในชีวิต ให้เราพร้อมรับมือ วัคซีนใจฉีดตัวเราได้ ให้ครอบครัวมีภูมิคุ้มกัน และให้เกิดขึ้นร่วมกันในองค์กรไปถึงชุมชน” พญ.พรรณพิมล กล่าวและว่า การฉีดวัคซีนใจให้ตนเอง 1.หากกลัวการติดเชื้อ สิ่งที่ช่วยได้คือการสร้างความรู้สึกปลอดภัย สู้กับความกลัว ดังนั้นหากวันนี้เราทราบความเสี่ยงด้วยประเมิน เราสามารถปฏิบัติตัวเพื่อลดความเสี่ยงนั้นด้วยการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ ไม่เข้าพื้นที่แออัด เปลี่ยนความกลัวมาให้รู้สึกปลอดภัย

Advertisement

อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า 2.ความตระหนก เป็นผลจากการรับข่าวสารมากขึ้น โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ดังนั้น วัคซีนใจคือ ความสงบ ระมัดระวังการรับข้อมูลให้มาจากแหล่งที่เชื่อถือได้ ไม่ส่งต่อข้อมูลที่สร้างความกังวลใจ เฝ้าระวังจิตใจให้ผ่อนคลาย

“3.ความอ่อนล้า เมื่อเราเผชิญสถานการณ์มาเต็มที่ตั้งแต่ระลอกที่ 1 เราเริ่มอ่อนล้าลง วัคซีนใจของเราคือความหวัง จากการสำรวจพบว่าการพูดคุย สื่อสารทางบวก ไม่ส่งต่อข้อความทางลบหรือไม่สามารถปฏิบัติได้จริง เพราะจะยิ่งลดทอนความพยายามของเราลงไปมากขึ้น นอกจากนี้ยังฉีดวัคซีนใจให้ผู้อื่นได้ ด้วยการดูแลกันและกันในครอบครัว ส่งต่อไปในองค์กร ชุมชน เพื่อให้ก้าวข้ามปัญหาไปด้วยกันโดยไม่ทิ้งใคร วัคซีนใจฉีดได้เลยไม่ต้องรอ” พญ.พรรณพิมล กล่าว

ทั้งนี้สามารถเข้าเว็บไซต์กรมสุขภาพจิต เพื่อเช็กระดับพลังใจให้ตนเอง และรับคำแนะนำว่าควรจะฉีดวัคซีนเข็มใดให้กับตัวเอง เพื่อให้ยังคงมีพลังในการเผชิญกับสถานการณ์ต่อไปได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image