แพทย์เล็ง รพ.ธรรมศาสตร์ฯ รองรับผู้ป่วยโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพฯ
เมื่อวันที่ 8 มกราคม ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ขณะนี้ ยอดเตียงของโรงพยาบาล (รพ.) สนาม ที่ สธ.เตรียมไว้ในจังหวัดที่มีการระบาด คือ จ.สมุทรสาคร ยอดเมื่อเวลา 16.30 น. (วันที่ 7 มกราคม) จำนวน 872 เตียง และ จังหวัดภาคตะวันออก ได้แก่ จ.ชลบุรี จ.ระยอง จ.จันทบุรี 444 เตียง รวมมียอดเตียงทั้งสิ้น 1,316 เตียง ปัจจุบันมีผู้ป่วยเข้าไปใช้แล้ว 686 เตียง แต่อย่างไรก็ตาม ต้องมีการสำรองเตียงเพิ่มให้ได้อีก 1,000 เตียง
ทั้งนี้ นพ.วีรวุฒิ กล่าวว่า เนื่องจากการมี รพ.สนาม เพื่อมาใช้รองรับผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหนัก และเพื่อเปิดทางให้ รพ.หลักได้รับผู้ป่วยอื่นๆ และยังไม่เกิดปัญหาความแออัด อย่างไรก็ตาม ยืนยัน ขณะนี้เตียงของ รพ.หลักมีเพียงพอ แต่ต้องเตรียมพร้อมไว้รองรับ หากเกิดกรณีสถานการณ์แย่ลง
นพ.วีรวุฒิ กล่าวว่า ความแตกต่างระหว่าง รพ.สนาม กับ ฮอสปิเทล (Hospitel) มีวัตถุประสงค์ในการใช้แตกต่างกัน รพ.สนาม ใช้ในกรณีผู้ป่วยที่เริ่มติดเชื้อ แต่ไม่มีอาการ นำมาพักดูอาการไว้ หากมีอาการหนักก็ส่งตัวต่อไปรักษายัง รพ.หลัก และ เมื่อรักษาหายแล้ว หรือ ในกรณีที่มีอาการดีขึ้น หลังผ่านการรักษามา 5-7 วัน แล้ว ต้องกักตัวดูให้ครบกำหนด 14 วันก็อาจนำกลับพักดูอาการจนครบที่ฮอสปิเทล
ด้าน รศ.นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผู้อำนวยการ รพ.รามาธิบดี และ ประธานเครือข่ายโรงเรียนแพทย์ กล่าวว่า ความร่วมมือกับ สธ. ในการจัดหา รพ.สนาม เน้นการจับคู่วางแผนดูอาการผู้ป่วยร่วมกัน ตามเขตสุขภาพของ สธ. มีทั้งการช่วยเหลือด้านการให้คำแนะนำ นำผู้เชี่ยวชาญลงไปในพื้นที่ หรือ วางแผนการรักษา เช่น ในเขตสุขภาพที่ 4 สธ. รับผิดชอบ จ.นนทบุรี สระบุรี มี รพ.ธรรมศาสตร์ฯ และ รพ.พระมงกุฎเกล้า และ รพ.ศรีนครินทร์วิโรฒประสานมิตร ร่วมดูแล ส่วนพื้นที่ เขตสุขภาพที่ 5 จ.สมุทรสาคร มี รพ.ศิริราช และ รพ.วชิรพยาบาล ร่วมดูแล เขตสุขภาพที่ 6 จ.ระยอง จ.ชลบุรี มี รพ.จุฬาลงกรณ์ และ รพ.รามาธิบดี ร่วมดูแล ทั้งนี้ สำหรับในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เล็งพื้นที่ รพ.ธรรมศาสตร์ฯ ไว้เพื่อดูแล เนื่องจากคำนึงปริมาณ และใช้เวลาการเกินทางไม่ไกล
