บอร์ด อภ.กำชับส่งวัคซีนโควิด-19 ล็อตแรก 2 แสนโดส กพ.นี้

บอร์ด อภ.อนุมัติอีก 5 สายการผลิตหน้ากากอนามัย ได้ 4.89 แสนชิ้น/วัน กำชับส่งวัคซีนโควิด-19 ล็อตแรก 2 แสนโดส กพ.นี้

วันนี้ (10 มกราคม 2564) นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม  เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา มีการประชุมคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม (บอร์ด อภ.) ชุดใหม่ครั้งแรก ทั้งนี้ที่ประชุมมีมติอนุมัติจัดซื้อเครื่องผลิตหน้ากากอนามัย เพิ่มสายการผลิต จำนวน 5 สาย รวมเป็น 6 สายการผลิต สามารถผลิตได้วันละ 489,000 ชิ้น เริ่มทยอยเปิดการผลิตในเดือนมีนาคมนี้ และให้ อภ.ดำเนินการตามนโยบาย สธ.ส่งมอบวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ล็อตแรก จำนวน 2 แสนโดส จากประเทศจีน จากจำนวน 2 ล้านโดส ตามแผนในเดือนกุมภาพันธ์นี้

“บอร์ด อภ.ได้อนุมัติจัดซื้อเครื่องจักรผลิตหน้ากากอนามัย เพิ่มอีก 5 สายการผลิต รวมเป็น 6 สายการผลิต สามารถผลิตหน้ากากอนามัยได้ไม่น้อยกว่าวันละ 489,000 ชิ้น หรือประมาณ 10 ล้านชิ้นต่อเดือน โดยหน้ากากอนามัยที่ผลิตเพิ่มขึ้นนี้ เป็นส่วนหนึ่งของกำลังการผลิตในประเทศ ที่จะเสริมความมั่นคงทางการแพทย์ได้ และเป็นการส่งเสริมการยกระดับคุณภาพมาตรฐานการผลิตหน้ากากอนามัยของประเทศไทย โดยสายการผลิตหน้ากากอนามัยที่เพิ่มขึ้น ทั้ง 5 สายการผลิตนี้ จะทยอยเปิดทำการผลิตได้ในเดือนมีนาคม จำนวน 2 สายการผลิต และครบทั้ง 5 สายการผลิต ภายในเดือนพฤษภาคม 2564” นพ.เกียรติภูมิ กล่าว

นอกจากนี้ ประธานบอร์ด อภ.กล่าวว่า ได้วางแผนจะร่วมกับภาคเอกชนในประเทศขยายกำลังการผลิต หน้ากากอนามัย ภายใต้มาตรฐานเดียวกับ อภ. โดยในเดือนมีนาคมจะสามารถผลิตได้เพิ่มอีกไม่น้อยกว่า 500,000 ชิ้นต่อวัน รวมทั้งจัดซื้อหน้ากากอนามัยชนิดต่างๆ เพิ่มมากขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจว่า ประเทศไทยจะมีหน้ากากอนามัยที่มีคุณภาพและเพียงพอในการใช้งาน รวมทั้งมีราคาที่เหมาะสม

Advertisement

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า ที่ประชุมยังได้เร่งรัด อภ.ดำเนินการจัดซื้อวัคซีนโควิด-19 ชุดแรกของประเทศไทย จำนวน 2 ล้านโดส ตามที่ สธ.มอบหมาย และได้ประสานจองไว้แล้ว จากบริษัทซิโนแวค ไบโอเทค (Sinovac Biotech Limited, People’s Republic of China) ซึ่งเป็นผู้ผลิตวัคซีนของประเทศจีน ให้เป็นไปตามแผน และให้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ขั้นตอนการดำเนินการต่างๆ เป็นไปอย่างถูกต้อง รวดเร็ว เหมาะสม โดยมีเป้าหมายให้บริษัทส่งมอบวัคซีนล็อตแรก จำนวน 2 แสนโดส ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ และล็อตต่อไปอีก 8 แสนโดส และ 1 ล้านโดส ภายในดือนมีนาคม และเดือนเมษายน 2564 ตามลำดับ

“คาดว่าจะขึ้นทะเบียนในประเทศจีนได้ภายในเดือนมกราคมนี้ และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ของประเทศไทยจะสามารถอนุมัติขึ้นทะเบียนได้ในกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้ จากนั้น อภ.จะจัดซื้อและนำเข้าวัคซีนต่อไป โดยกรมควบคุมโรคจะเป็นผู้จัดซื้อวัคชีนจาก อภ. เพื่อนำไปฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ที่มีการระบาดมากที่สุด 5 จังหวัดก่อน ได้แก่ สมุทรสาคร ระยอง ชลบุรี จันทบุรี และตราด โดยฉีดให้กับกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า ทั้งภาครัฐและเอกชน อสม. เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโรค และประชาชนที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง มะเร็ง เบาหวาน และกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป หากมีส่วนที่เหลือจะเก็บสำรองไว้” ประธานบอร์ด อภ. กล่าว

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image