ทส.จับมือ ผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ ตั้งชุดปฏิบัติการมวลชนป้องกันไฟป่า

ทส.จับมือ ผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ ขับเคลื่อน 4 ประเด็นใหญ่ ตั้งชุดปฏิบัติการมวลชนป้องกันไฟป่าพร้อมปลูกป่าต้นน้ำเร่งด่วน 12 จังหวัด จัดทำที่ดินทำกิน 1.89 ล้านไร่ ใน 63 จังหวัด เร่งหน่วยราชการขอใช้พื้นที่เขตป่าสงวน 31 ม.ค.นี้

เมื่อวันที่ 14 ม.ค.นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัด ทส. และ ผู้บริหาร ทส.ประชุมทางไกลผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล กับ ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อขอความร่วมมือหน่วยงานระดับพื้นที่ขับเคลื่อนภารกิจเร่งด่วน 4 ประเด็น

ทั้งนี้ นายวราวุธ กล่าวว่า เรื่องแรก คือ การปัญหาไฟป่า หมอกควัน และ PM 2.5 ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาจัดตั้งชุดปฏิบัติการมวลชนลงพื้นที่สร้างการรับรู้ ความเข้าใจและเข้ามามีส่วนในการลดต้นเหตุการเกิดไฟป่า หมอกควัน และ PM 2.5 โดยชุดปฏิบัติการ จะทำงานร่วมกับ ทส. ฝ่ายปกครอง ทหาร และจิตอาสาพระราชทาน รวมถึงเครือข่ายภาคประชาชน อบต. นายอำเภอ ผู้นำชุมชน โดยสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด(ทสจ.) จะเป็นหน่วยงานสนับสนุนทางวิชาการ และขอให้แต่ละจังหวัดลดและควบคุมการเผาในพื้นที่เกษตรอย่างเข้มงวด

Advertisement

รมว.ทส.กล่าวต่อว่า เรื่องที่สอง คือ การปลูกป่า สร้างฝาย และระบบกระจายน้ำในพื้นที่ป่าต้นน้ำ โดยขอให้ทุกจังหวัดเร่งรัดขับเคลื่อนโครงการปลูกป่าและป้องกันไฟป่า ตามที่ ทส. กำหนดไว้ 2.68 ล้านไร่ในปี 2570 โดยปี 2564 – 2565 เร่งรัดดำเนินการในพื้นที่ต้นน้ำ 12 จังหวัดเร่งด่วน ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ตาก น่าน พะเยา ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน ชัยภูมิ นครศรีธรรมราช และนครราชสีมา ส่วนจังหวัดอื่นดำเนินการในส่วนของการเพิ่มพื้นที่สีเขียวทั้งในและนอกเขตป่าร่วมกับชุมชน อปท. และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด แต่งตั้งคณะกรรมการโครงการปลูกป่าและป้องกันไฟป่าระดับจังหวัดให้แล้วเสร็จภายในเดือน ม.ค.2564

นายวราวุธ กล่าวอีกว่า เรื่องต่อมา คือ การจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน ภายใต้ คทช.ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเร่งรัดให้เกิดการอนุญาตการเข้าทำประโยชน์ของชุมชนในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 375 พื้นที่ หรือ 1,890,688 ไร่ ใน 63 จังหวัด รวมถึง ขอให้มอบหมายเกษตรจังหวัดและนายอำเภอที่เกี่ยวข้องประสาน หน่วยงานของ ทส. ในพื้นที่ ในการสำรวจพื้นที่สนับสนุนแหล่งน้ำ และขอให้มีการประสานหน่วยงานอื่นในการสร้างอาชีพให้กับประชาชนในพื้นที่ คทช. ทั้งนี้ ยังมีพื้นที่จำนวน 4.75 ล้านไร่ ในการสำรวจและรังวัดแนวเขตป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน ให้ครบถ้วนแล้วเสร็จภายในเดือนก.ย.2564 และเรื่องสุดท้ายการขออนุญาตการใช้ประโยชน์ของส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแจ้งส่วนราชการที่ยื่นคำขอ จัดเตรียมรายละเอียดประกอบคำขอให้ถูกต้อง ครบถ้วน ภายในวันที่ 31 ม.ค.นี้ และให้สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด และสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ในพื้นที่ ตรวจสอบพื้นที่รวมถึงเอกสารให้ถูกต้อง ครบถ้วน เพื่อทยอยเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดลงนามภายในวันที่ 15 ก.พ.2564 โดย ทส. จะได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป เพื่อให้แล้วเสร็จภายในเดือน มี.ค.2564

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image