ปลอกคอช่วยชีวิต เสือวิจิตร และชาวบ้าน
ในขณะที่บางภาคส่วน ตั้งข้อสังเกตเรื่องผลเสียของการืั้นักวิจัยเอาปลอกคอไปติดที่สัตว์ โดยเฉพาะช้าง ทำให้เกิดความรำคาญ และมีพฤติกรรมก้าวร้าว จนเป็นเหตุให้ต้องทำร้ายนักท่องเที่ยวนั้น
วันที่ 20 มกราคม เว็บเพจ Thailand Tiger Project DNP ของ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้เขียนถึงเรื่องประโยชน์ของการติดปลอกคอเสือโคร่ง ซึ่งการรู้ถึงตำแหน่งว่าเสือโคร่งอยู่ที่ไหน สามารถช่วยชีวิตได้ทั้งเสือโคร่ง และชาวบ้านในพื้นที่ได้
โดยยกตัวอย่างการติดปลอกคอเสือโคร่งที่ชื่อ เสือวิจิตร ที่เดินเลยจากป่า ออกมาหากินในพื้นที่ทำกินของชาวบ้าน แต่นักวิจัยตรวจพบก่อน
โดยนักวิจัยได้เขียนบันทึกเรื่องดังกล่าวเอาไว้ดังนี้…
เสือวิจิตร
ซากวัวแดง
“ประโยชน์ข้างเคียง”
เช้าตรู่วันหนึ่งเมื่อตำแหน่งการเคลื่อนที่จากปลอกคอสัญญาณดาวเทียมของเสือ “วิจิตร” บนแผนที่ google ทำให้เห็นว่ามันออกไปทำกิจกรรมอะไร? บางอย่างในบริเวณที่เห็นประโยชน์ต่างกัน ระหว่างชาวบ้านกับภาครัฐ การเข้าถึงพื้นที่นั้นจึงเป็นภาระกิจเร่งด่วนและสำคัญของทีมวิจัยในวันนั้น เพราะเกรงว่า วิจิตร จะไปทำให้ชาวบ้านแตกตื่น ตกใจ
เมื่อเดินทางถึงที่พื้นที่จริง จึงได้เห็นว่าบริเวณที่ วิจิตร ไปยุ่มย่ามนั้น เป็นพื้นที่ภาครัฐกำลังขอคืนเพื่อให้เป็นป่าธรรมชาติสำหรับคนไทยทั้งชาติ และได้มีการรายงานข้อมูลเป็นระยะๆ ระหว่างทีมลงพื้นที่กับสำนักงาน
“รับสัญญาณได้เต็มครับ” แสดงว่า เสือวิจิตรอยู่ไม่ห่างจากทีมวิจัยนัก
“ระวังอยู่มากกว่าหนึ่งตัวนะ” เป็นการเตือนว่า ที่ผ่านมาพวกเค้าเคยอยู่กันแบบพี่ๆน้องๆ ต้องเชคสัญญาณตัวอื่นๆด้วย
เมื่อตรวจสอบรอบคอบ ท้ายสุด ปริศนาก็คลี่คลายเมื่อได้เห็นว่า มีซากวัวแดงขนาดกลางๆ ซุกซ่อนอยู่ในพงหญ้าแห้ง ที่มีร่องรอยการกินไปเพียงนิดเดียว นั่นหมายความว่า ยังไม่อิ่ม และคงต้องย้อนกลับออกมากินจนกว่า อาหารนี้จะหมด
เมื่อประเมินแล้วว่า จุดนั้นจะเป็นจุดเสี่ยงทั้งของเสือโคร่งและชาวบ้าน ผสมเพิ่มเติมกับความรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมเสือโคร่งที่ทีมวิจัยพอมี จึงได้มีการประสาน ขอกำลังเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมจากขาแข้ง เพื่อเคลื่อนย้ายอาหารมื้อโตนี้ เข้าไปในพื้นที่แนวเขต เพื่อให้ เสือโคร่งได้อิ่มเอมเต็มที่ และชาวบ้านไม่ต้องตระหนก ตกใจ แตกตื่น
ท้ายที่สุดเป็นไป ตามคาด เสือวิจิตรตามกลับเข้าไปกินอาหารนั้น พ่วงด้วยน้องสาว “อภิญญา” สองศรีพี่น้องใช้เวลาอิ่มเอมสองคืน เหลือแต่เพียงเศษกระดูกทิ้งไว้ให้เม่นได้แทะเล่น
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
