เคาะแล้ว! วัคซีน 5 หมื่นโดสแรก ฉีดบุคลากรแพทย์-ด่านหน้าโควิด ต่างด้าว นายจ้าง-รัฐ ร่วมจ่าย
วันที่ 29 มกราคม นพ.โสภณ เมฆธน ประธานคณะอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้สัมภาษณ์ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ว่าวันนี้ที่ประชุมคณะอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโควิด-19 มีมติ 1.ต้องฉีดให้ทุกคนในประเทศไทย ที่รวมถึงแรงงานต่างด้าวด้วย โดยเป็นการร่วมจ่าย ระหว่างรัฐกับภาคเอกชน ธุรกิจ หรือนายจ้าง แต่ยังต้องอยู่ในความสมัครใจ ส่วนในคนไทยจะเป็นการฉีดฟรีตามความสมัครใจเช่นกัน 2.การฉีดต้องอยู่ในความปลอดภัย มีประสิทธิภาพ มีความเป็นธรรม และรวดเร็ว ซึ่งเป็นแผนในระยะถัดไป 3.แผนการกระจายวัคซีนล็อตแรกจากบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า จำนวน 50,000 โดส ที่จะเข้ามาภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ มีมติแล้วว่าจะฉีดให้หมดทั้งล็อต ไม่ต้องเก็บไว้สำหรับเข็มที่ 2 แต่พิจารณาฉีดเฉพาะ 2 กลุ่มแรก
“เพื่อความปลอดภัยและไม่ให้กระทบต่อระบบการบริการสาธารณสุข คือ 1.บุคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 และ 2.บุคลากรอื่นๆ เจ้าหน้าที่ด่านหน้าป้องกันโควิด-19 เช่น อสม. ทหาร ตำรวจ ทั้งนี้ ตัวเลขของบุคลากรทั้ง 2 กลุ่มนี้มีมากกว่า 50,000 คน จึงต้องให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ที่รับผิดชอบ ไปสำรวจความสมัครใจและรายงานตัวเลขกลับมาก่อนวันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อนำมาบริหารว่าจะฉีดอย่างไร ทั้งนี้ ระยะแรกจะต้องฉีดให้กับพื้นที่เสี่ยง 5 จังหวัดก่อน คือ สมุทรสาคร กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ นนทบุรี และปทุมธานี โดยอาจกระจายไปยังโรงพยาบาล (รพ.) ที่มีความเสี่ยง เช่น อ.แม่สอด จ.ตาก ตามลำดับ” นพ.โสภณกล่าว
นพ.โสภณกล่าวว่า กรณีที่สหภาพยุโรป หรืออียู จำกัดการขนส่งวัคซีน ซึ่งอาจกระทบต่อการนำเข้า ตรงนี้ไม่น่ากังวล เพราะหากวัคซีนล็อตแรกเข้ามาในประเทศไทย ช่วงสัปดาห์ที่ 1 ของเดือนกุมภาพันธ์ ในสัปดาห์ที่ 2 จะต้องส่งไปตรวจสอบคุณภาพ โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ร่วมกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จึงจะสามารถเริ่มฉีดได้ในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน
“ขณะที่การฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 คณะกรรมการฯมีมติแล้วว่าจะต้องฉีดห่างจากเข็มที่ 1 ประมาณ 10-12 สัปดาห์ ซึ่งนับไปแล้วก็จะอยู่ในระหว่างเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ในขณะนั้นวัคซีนที่ผลิตในประเทศโดยบริษทสยามไบโอไซเอนซ์ ก็จะสามารถผลิตได้สำเร็จ เราก็จะนำจากล็อตเหล่านั้นมาฉีดได้ อย่างไรก็ตาม หากวัคซีนที่จะเข้าไทยมาอีก 1 บริษัท คือ ซิโนแวค เมื่อเข้ามาแล้วก็จะสามารถดำเนินตามแผนเดียวกันนี้ได้” นพ.โสภณกล่าว
อย่างไรก็ตาม นพ.โสภณกล่าวว่า จะต้องมีการซักซ้อมแผนในการฉีด อาจจะเป็นในรูปแบบของวิดีโอสาธิต อธิบายขั้นตอน การเตรียมตัวก่อนฉีด ระหว่างเข้ารับบริการวัคซีนในสถานพยาบาล เพื่อดูว่าหากจะต้องฉีดจริง จะใช้เวลาราวๆ กี่นาที ซึ่งตัวเลขเหล่านั้นจะต้องนำไปเพื่อบริหารการให้วัคซีนด้วย
