สธ.เผยโควิด-19 ไทยลำดับ 115 โลก ยันวัคซีนปลอดภัย เรียนรู้ข้อมูลจาก ตปท.
เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค สธ. แถลงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ในประเทศไทย ว่า สถานการณ์ยังเปลี่ยนแปลงต่อเนื่อง ผู้ติดเชื้อทั่วโลกสะสมที่ 104.3 ล้านราย เสียชีวิตสะสม 2.26 ล้านราย แสดงให้เห็นถึงปัญหาที่ยังส่งผลกระทบต่อเนื่อง ขึ้นอยู่กับมาตรการแต่ละประเทศจะสามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ได้ดีแค่ไหน โดยประเทศไทยอยู่ลำดับที่ 115 ของโลก มีผู้ติดเชื้อสะสมตั้งแต่การระบาดรอบแรก 21,249 ราย เป็นการระบาดรอบใหม่ 17,012 ราย ร้อยละ 99.23 อยู่ใน จ.สมุทรสาคร ส่วนกรุงเทพมหานคร ร้อยละ 0.51 และจังหวัดอื่นๆ ร้อยละ 0.26
นพ.เฉวตสรร กล่าวว่า กรณีคลัสเตอร์โต๊ะแชร์ จ.มหาสารคาม ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อยืนยัน 17 ราย ข้อมูลจากการคัดกรองหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน จำนวน 4,149 ราย ไม่พบเชื้อ 2,477 ราย รอผลอีก 4,672 ราย อย่างไรก็ตาม การเฝ้าระวังในสถานพยาบาล จ.มหาสารคาม ตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2563 ถึงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มผู้ป่วยปอดอักเสบ 105 ราย คลินิกโรคไข้หวัดและระบบทางเดินหายใจ 613 ราย กลุ่มพื้นที่เสี่ยงตลาดนัด สถานที่จำหน่ายอาหารทะเลสด 163 ราย แรงงานต่างด้าว 104 ราย ผลที่ออกมาไม่พบเชื้อทุกราย
นพ.เฉวตสรร กล่าวว่า ประเด็นการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในประเทศอิสราเอล โดยวัคซีนของบริษัท ไซเฟอร์ สหรัฐอเมริกา ซึ่งฉีดครอบคลุมประชากรจำนวนมาก จึงนำข้อมูลมาวิเคราะห์ว่า ผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป จำนวน 200,000 คน เทียบกับที่ไม่ได้ฉีดอีก 200,000 คน พบว่า คนที่ได้รับวัคซีนมีอัตราการติดเชื้อน้อยกว่าคนไม่ได้ฉีดถึงร้อยละ 33 เป็นสัญญาณดีในแง่ประสิทธิผลของวัคซีนตอนตั้งต้นเป็นไปในทางบวก น่าวางใจ และรายงานความปลอดภัย ไม่พบอาการแทรกซ้อนที่น่ากังวลในผู้สูงอายุที่รับวัคซีนแล้ว ถือว่าประเทศอื่นฉีดก่อนแล้วเราเริ่มที่หลัง ก็จะได้เรียนรู้ความปลอดภัยและผลของวัคซีนจากประเทศอื่น เพื่อสร้างความมั่นใจในการเข้ารับวัคซีน ตามเป้าหมายที่จะควบคุมและลดการระบาดในประเทศ
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะต้องเตรียมตัวก่อนฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างไร นพ.เฉวตสรร กล่าวว่า การฉีดวัคซีนก็จะเหมือนกับโรคอื่นๆ ไม่แนะนำให้ฉีดระหว่างมีอาการเจ็บป่วยหรือมีไข้ ขอให้เลื่อนกำหนดฉีดออกไป และระบบการแพทย์จะตรวจสอบข้อมูลบื้องต้นก่อนฉีด เช่น โรคประจำตัว สภาพร่างกาย อายุ น้ำหนัก ส่วนสูง จึงไม่ต้องมีความกังวลอะไรเป็นพิเศษ
