ผู้ว่าฯอัศวิน เผยชื่อ 3 รพ.กทม.พร้อมฉีดวัคซีนโควิด-19 ล็อตแรก

ผู้ว่าฯอัศวิน เผยชื่อ 3 รพ.กทม.พร้อมฉีดวัคซีนโควิด-19 ล็อตแรก เริ่มมีนาฯเป็นต้นไป
เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยระหว่างนำคณะไปตรวจติดตามความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมสถานพยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ พร้อมชมการสาธิตการดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ให้กับกลุ่มเสี่ยงชาวกรุงเทพมหานคร ที่โรงพยาบาล (รพ.) ผู้สูงอายุบางขุนเทียน ว่า วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เดินทางถึงประเทศไทยแล้ว ในส่วนของ กทม.ถ้าได้รับการส่งมอบวัคซีนตามกำหนด ก็จะสามารถเริ่มฉีดได้ภายในเดือนมีนาคมนี้

พล.ต.อ.อัศวินกล่าวว่า วันนี้ กทม.จะมีการสาธิตฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของสำนักการแพทย์ กทม.ที่โถงชั้น 1 อาคารผู้ป่วยนอก รพ.ผู้สูงอายุบางขุนเทียน ตั้งแต่ขั้นตอนการตรวจสอบสิทธิ และกรอกประวัติข้อมูล การลงทะเบียน ทำบัตร การคัดกรองการให้คำปรึกษา แนะนำ และลงลายมือชื่อในใบแสดงความยินยอม การรับบริการฉีดวัคซีน การพักสังเกตอาการ และการตรวจสอบก่อนกลับและรับเอกสาร เพื่อให้พร้อมในการปฏิบัติงานเมื่อ กทม.ได้รับวัคซีนมาแล้ว

สำหรับโรงพยาบาลในสังกัด กทม. ที่พร้อมจะให้บริการวัคซีนโควิด-19 ในระยะแรกนี้ ประกอบด้วย รพ.ผู้สูงอายุบางขุนเทียน รพ.หลวงพ่อทวีศักดิ์ ชุตินฺธโร อุทิศ และ รพ.ราชพิพัฒน์ ส่วนโรงพยาบาลสังกัดหน่วยงานอื่น และโรงพยาบาลเอกชน ที่มีความพร้อมจะร่วมให้บริการวัคซีนโควิด-19 แก่ประชาชนจะแจ้งให้ทราบต่อไป” ผู้ว่าฯกทม.กล่าว

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า สำหรับวัคซีนโควิด-19 ที่ กทม.จะได้รับจากรัฐบาลในระยะแรก มีจำนวน 66,000 โดส ซึ่งจะสามารถให้ประชาชนได้ จำนวน 33,000 คน เนื่องจาก ต้องให้วัคซีนคนละ 2 โดส หรือ 2 เข็ม ในระยะเวลาห่างกันประมาณ 2-4 สัปดาห์  โดยกลุ่มเป้าหมายการให้วัคซีนโควิด-19 ระยะแรก ซึ่งมีวัคซีนจำนวนจำกัด ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า ทั้งภาครัฐและเอกชน จำนวน 6,200 คน กำหนดให้วัคซีนในสัปดาห์แรก เพื่อเฝ้าสังเกตอาการหากมีอาการไม่พึงประสงค์จะสามารถให้การดูแลได้อย่างทันท่วงที จากนั้นสัปดาห์ที่ 2 จะให้วัคซีนแก่ อาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.) และเจ้าหน้าที่  ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโรคโควิด 19 ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย ซึ่งเป็นผู้มีความรู้ด้านการพยาบาลพอสมควร ซึ่งหากเกิดอาการไม่พึงประสงค์จะสามารถดูแลตนเองได้ในระดับหนึ่ง จำนวน 800 คน กลุ่มต่อไป คือ กลุ่มผู้ป่วยเรื้อรัง 7 กลุ่มโรคเสี่ยง คือ 1. โรคทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง 2.โรคหัวใจและหลอดเลือด 3.โรคหลอดเลือดสมอง 4.โรคไตเรื้อรัง 5.โรคมะเร็งทุกชนิด ที่อยู่ระหว่างเคมีบำบัด รังสีบำบัดและภูมิคุ้มกันบำบัด 6. โรคเบาหวาน 7. โรคอ้วน ที่มีอายุ 18-59 ปี จำนวน 23,500 คน และกลุ่มสุดท้าย คือ ประชาชนทั่วไปและแรงงาน (อายุ 18-59 ปี) จำนวน 2,500 คน ทั้งนี้มีโรงพยาบาลที่จะร่วมให้บริการฉีดวัคซีน จำนวน 15 แห่ง ประกอบด้วย โรงพยาบาลสังกัด กทม.3 แห่ง และโรงพยาบาลเอกชน 12 แห่ง

Advertisement

ด้าน นพ.สุขสันต์ กิตติศุภกร ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กล่าวถึงความพร้อมของโรงพยาบาลในสังกัด กทม.ว่า บุคลากรของ กทม.มีประสบการณ์ในการฉีดวัคซีน แต่สิ่งที่ประชาชนต้องเตรียมคือ ต้องมีการลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิฉีดวัคซีน และลงเวลานัดหมาย เลือกโรงพยาบาลที่สะดวก เพื่อประหยัดเวลาในการรอคอย อย่างไรก็ตาม หากไม่ได้ลงทะเบียนล่วงหน้า กทม.ได้เตรียมเจ้าหน้าที่ไว้คอยอำนวยความสะดวกในการลงทะเบียนในระบบหมอพร้อม และทำการนัดหมายให้ ในการฉีดวัคซีนเข็มแรก และเข็มที่ 2 ควรไปฉีด ณ โรงพยาบาลเดียวกัน และเมื่อถึงวันนัดหมายฉีดวัคซีน ให้เตรียมร่างกายให้พร้อม รับประทานอาหารและดื่มน้ำตามปกติ มาถึงโรงพยาบาลก่อนเวลานัดหมาย หากมีไข้สามารถ โทร.เลื่อนนัดได้

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image